เมื่อวันที่ 24 ก.ย.63 พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.อลงกต คชแก้ว รอง ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.พลวุฒิ ผาตินุวัติ สว.กก.1 บก.ป. ร.ต.อ.สุรพล ชูใจ, ร.ต.อ.ปภินวิทย์ อุดมพร รอง สว.กก.1 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. ร่วมกันจับกุมตัวนายประยงค์ (สงวนนามสกุล) ตามหมายจับของศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ 843/2554 ลงวันที่ 19 ก.ค.54 ในข้อหาว่า ร่วมกันฉ้อโกง ได้ที่บริเวณ ต.เชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 ต.ค.53 ผู้เสียหายได้นัดหมายกับนายประยงค์ฯ กับพวกที่บริเวณปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง พหลโยธิน 39 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. ติดต่อทำหนังสือค้ำประกันมูลค่า 4,000,000 บาท จากธนาคารแห่งหนึ่ง เพื่อจะนำเงินดังกล่าวไปใช้ในการลงทุนทำธุรกิจ โดยนายประยงค์ และพวกอ้างว่าตนรู้จักกับผู้ใหญ่ในธนาคาร เรื่องการอำนวยความสะดวกในการจัดทำแต่ต้องมีค่าดำเนินการในการจัดทำ 400,000 บาท ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงยินยอมจ่ายเงินจำนวน 400,000 บาท เป็นค่าดำเนินการแต่ต่อมาเมื่อถึงวันครบกำหนดสัญญาที่ผู้เสียหายจะได้รับเอกสาร ปรากฏว่า นายประยงค์ฯกับพวกบ่ายเบี่ยงเรื่อยมาไม่สามารถติดต่อนายประยงค์ฯ กับพวกได้ในที่สุด จึงรู้ตัวว่าโดนหลอก
จากนั้นจึงได้เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ ที่ สน.พหลโยธิน และพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติออกหมายจับนายประยงค์ฯ กับพวกตามหมายจับ กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบชุดจับกุมสืบสวนทราบว่า นายประยงค์ ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่บริเวณ ต.เชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง จึงเดิน ทางไปตรวจสอบพบนายประยงค์ฯ จึงได้ทำการจับกุมตัวนำตัวส่งพนักงงานสอบสวน สน.พหลโยธิน เนินคดี จากการสอบถาม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนก่อเหตุดังกล่าวจริง เนื่องจากตนถูกกลุ่มเพื่อนที่ทำอาชีพนายหน้าขายที่ดิน หลอกลวงจูงใจในการทำเรื่องอีกทีนึง หลังจากก่อเหตุก็ได้หลบหนีเปลี่ยนที่พักอาศัยไปเรื่อยๆ ตลอดระยะเวลา 10 ปี จนมาถูกตำรวจกองปราบจับกุมดังกล่าว
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 ต.ค.53 ผู้เสียหายได้นัดหมายกับนายประยงค์ฯ กับพวกที่บริเวณปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง พหลโยธิน 39 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. ติดต่อทำหนังสือค้ำประกันมูลค่า 4,000,000 บาท จากธนาคารแห่งหนึ่ง เพื่อจะนำเงินดังกล่าวไปใช้ในการลงทุนทำธุรกิจ โดยนายประยงค์ และพวกอ้างว่าตนรู้จักกับผู้ใหญ่ในธนาคาร เรื่องการอำนวยความสะดวกในการจัดทำแต่ต้องมีค่าดำเนินการในการจัดทำ 400,000 บาท ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงยินยอมจ่ายเงินจำนวน 400,000 บาท เป็นค่าดำเนินการแต่ต่อมาเมื่อถึงวันครบกำหนดสัญญาที่ผู้เสียหายจะได้รับเอกสาร ปรากฏว่า นายประยงค์ฯกับพวกบ่ายเบี่ยงเรื่อยมาไม่สามารถติดต่อนายประยงค์ฯ กับพวกได้ในที่สุด จึงรู้ตัวว่าโดนหลอก
จากนั้นจึงได้เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ ที่ สน.พหลโยธิน และพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติออกหมายจับนายประยงค์ฯ กับพวกตามหมายจับ กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบชุดจับกุมสืบสวนทราบว่า นายประยงค์ ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่บริเวณ ต.เชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง จึงเดิน ทางไปตรวจสอบพบนายประยงค์ฯ จึงได้ทำการจับกุมตัวนำตัวส่งพนักงงานสอบสวน สน.พหลโยธิน เนินคดี จากการสอบถาม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนก่อเหตุดังกล่าวจริง เนื่องจากตนถูกกลุ่มเพื่อนที่ทำอาชีพนายหน้าขายที่ดิน หลอกลวงจูงใจในการทำเรื่องอีกทีนึง หลังจากก่อเหตุก็ได้หลบหนีเปลี่ยนที่พักอาศัยไปเรื่อยๆ ตลอดระยะเวลา 10 ปี จนมาถูกตำรวจกองปราบจับกุมดังกล่าว