ป้าวัย 52 ปีชาวอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ โร่แจ้งความหลังถูกโจรถอดกางเกงโชว์ของลับขู่ริมถนนติดกับทุ่งนา ก่อนอาศัยจังหวะเหยื่อวิ่งหนีไปขอความช่วยเหลือเพื่อนบ้าน งัดเบาะรถจักรยานยนต์นำเอาทรัพย์สินหลบหนี ขณะที่ตำรวจสภ.เมืองกาฬสินธุ์เร่งลงพื้นที่สืบหาตัวคนร้าย เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 23 กันยายน 2563 พ.ต.ท.นพรัตน์ หลวงสนาม พนักงานสอบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนร้ายถอดกางเกงโชว์อวัยวะเพศและขู่ชาวบ้าน ขณะกำลังถอนต้นกกไปทอเสื่อ ก่อนที่จะอาศัยจังหวะผู้เสียหายตกใจวิ่งหนีงัดเบาะรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ริมถนนแล้วนำเอาทรัพย์สินหลบหนีไป โดยเหตุเกิดที่ริมถนนเลียบคลองชลประทานระหว่างหมู่บ้านคุ้มคลองหลวง – บ้านกกกอก ต.เหนือ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ หลังรับแจ้งจึงรายงานไปยัง พ.ต.อ.ปริญญา คำเจริญ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมลงพื้นที่เข้าตรวจสอบร่วมกับ พ.ต.ท.สีหนาท จันทร์เหลือง สว.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ร.ต.อ.อมร เดชศรี รองสว.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์ โดยที่เกิดเหตุ พบผู้เสียหายทราบชื่อคือนางไพวรรณ์ ชาญสิทธิ์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 ม.12 บ้านเหล็กใต้ ต.เหนือ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ รอให้การกับเจ้าหน้าที่ และพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟสีแดง-ดำ ทะเบียน 1 กฉ 6848 กาฬสินธุ์ของผู้เสียหายจอดอยู่ริมถนนติดกับทุ่งนา จากการสอบถาม นางไพวรรณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 11.00 น.ตนได้ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดไว้ที่บริเวณดังกล่าว และได้ลงไปในทุ่งนาห่างจากจุดจอดรถประมาณ 50 เมตร เพื่อไปเก็บต้นกกมาทอเสื่อขาย จากนั้นได้เห็นชายแต่งคล้ายชุดกีฬา สวมเสื้อและนุ่งกางเกงสีดำ รูปร่างผอม ผมสั้น ขี่รถจักรยานยนต์สีดำ ไม่ทราบยี่ห้อ มาจอดหลบในพุ่มไม้ข้างถนน ห่างจากตนประมาณ 70 เมตร ก่อนที่ชายคนดังกล่าวได้เดินออกมาจากพุ่มไม้แล้วถอดกางเกงหันหน้าโชว์อวัยวะเพศมาที่ตนอยู่นาน ซึ่งตนเห็นท่าไม่ดี และเกรงว่าจะเกิดอันตราย จึงตั้งสติวิ่งไปขอความช่วยเหลือชาวบ้านที่อยู่บ้านใกล้กับที่เกิดเหตุ จนเพื่อนบ้านพาออกมาดูรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ เห็นคนร้ายกำลังพยายามงัดเบาะรถ จึงพากันตะโกนไล่ ทำให้คนร้ายตกใจวิ่งไปขี่รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่บริเวณพุ่มไม้หลบหนีไป จากนั้นตนได้เข้าไปดูที่เบาะรถพบว่าถูกงัดแล้วนำเอากระเป๋าพลาสติก ซึ่งข้างในมีแหวนทอง 2 วง น้ำหนักวงละหนึ่งสลึง เงินสดจำนวน 5,600 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และเอกสารต่างๆหลบหนีไป จึงได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ เพื่อให้ติดตามตัวคนร้ายดังกล่าว อย่างไรก็ตาม จากการลงพื้นที่ของตำรวจเบื้องต้นพบว่าผู้เสียหายจำหน้าและรถของคนร้ายไม่ได้ ซึ่งยังคงอยู่ในอาการตกใจ และยังให้การสับสนอยู่ แต่คาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่สืบหาข่าวเพื่อติดตามตัวคนร้ายแล้ว