เมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่รัฐสภา กลุ่มร่วมกันของรัฐสภา  พล.อ.ต.เฉลิมชัย เครืองาม ส.ว. อภิปรายว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญจำเป็นต้องทำประชามติ 2 ครั้ง ครั้งแรก ทำประชามติสอบถามประชาชนก่อนที่จะมีการลงมติรับหลักการในวาระแรก  อยากได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ และครั้งที่สอง ทำหลังจากส.ส.ร.ยกร่างเสร็จ และมีการลงมติเรียบร้อยแล้วให้ทำประชามติสอบถามประชาชนว่า พอใจกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ยกร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับแล้ว การแก้ไขแบบรายมาตราก็มีคำถามเหมือนกันว่า จะต้องทำประชามติถามประชาชนหรือไม่ "ผมไม่ขัดข้องกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยไม่ตกอยู่ภายในอาณัติของใคร เคารพเสียงของประชาชนและลูกๆหลานๆที่ต้องการให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ผมอยากให้แก้รัฐธรรมนูญ โดยที่ไม่ขัดกฏหมาย ไม่มีใครนำเรื่องไปยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า กระบวนการได้รัฐธรรมนูญไม่ชอบ เพราะเมื่อครั้งปี 2555 ที่มีการยื่นแก้ไขมาตรา 291 ในรัฐธรรมนูญ 2550 เพื่อแก้ไขทั้งฉบับก็มีผู้ไปยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า สามารถทำได้หรือไม่ ในที่สุดศาลวินิจฉัยว่า การแก้ไขทั้งฉบับควรผ่านการทำประชามติจากประชาชนก่อนที่จะมีการแก้ไข ผมเชื่อว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้มีคนยื่นให้ศาลตีความเหมือนกับในปี 2555 แน่นอน ซึ่งโดยส่วนตัว ถ้าผมขัดข้องหมองใจหนักๆก็ยินดีลาออกจากส.ว.เพื่อยึดหลักกฏหมายที่ถูกต้อง"พล.อ.ต.เฉลิมชัย กล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงเย็นนั้น ส.ว.ที่ขึ้นอภิปรายส่วนใหญ่เป็นส.ว.กลุ่มที่แสดงจุดยืนชัดเจนว่าไม่ต้องการให้มีการตั้ง ส.ส.ร. ส่วนกลุ่มที่สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญทุกรูปแบบนั้นยังคงสงวนท่าที ยังไม่มีใครที่ลุกขึ้นอภิปรายเลย