เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 63 พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พ.ต.อ.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.พิเชฐ จันทร์ขำ,พ.ต.ท.ภัทรพล ปัทมวงศ์, พ.ต.ท.อลงกต คชแก้ว, พ.ต.ท.ก่อเกียรติ วุฒิจำนงค์ รอง ผกก.กก.1 บก.ป. พ.ต.ท.อาจินต์ วังวรรธนะ สว.กก.1 บก.ป.และ ร.ต.อ.วีรศักดิ์ เผือกพันธ์ รอง สว.ป.กก.1 บก.ป. ร่วมกันจับกุม น.ส.ศุธิดา สรเอีย อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49/1 ม.2 ต.จันทเคลม อ.เขาคิชฒกูฏ จ.จันทบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดสุโขทัย ที่ 92/2563 ลงวันที่ 10 ก.ย.63 ในข้อหาว่า “กระทำโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สามและกระทำโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น”ได้ที่บ้านเลขที่ 45/7 หมู่ 3 ต.ตรอกนอง อ.ขลุง จ.จันทบุรี
สืบเนื่องจากบริษัทธัญวรรณ จำกัด เข้าแจ้งความว่า ถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงซื้อสินค้าจากบริษัท ผ่านทางแอฟฟิเคชั่นเฟสบุ๊ก ซึ่งบริษัทเปิดขายสินค้าออนไลน์หลายรายการ โดย น.ส.ศุธิดา ใช้เฟสบุ๊กส่วนตัวติดต่อซื้อสินค้าจากบริษัท หลายรายการเมื่อตกลงราคากันได้ซึ่งเป็นเงินจำนวนหลายแสน แล้วทำการโอนเงินเพื่อชำระค่าสินค้าที่สั่งซื้อทั้งหมด แต่น.ส.ศุธิดา ได้ทำการโอนเงินเพียงแค่ 1 บาทเท่านั้น แล้วทำการแก้ไขเปลี่ยนแปลงจำนวนเงินที่โอนในสลิปทำให้เท่ากับยอดจำนวนที่ได้สั่งซื้อหลายแสนบาท แล้วส่งไปยืนยันกับทางบริษัท ผ่านช่องทางเฟสบุ๊ก จนทำให้บริษัทหลงเชื่อทำการจัดส่งสินค้าไปให้กับน.ส.ศุธิดา ซึ่ง ได้กระทำการเช่นเดิมแล้วหลายครั้ง บางครั้งผู้เสียไม่มาแจ้งความเพราะยอดความเสียหายจำนวนไม่มาก หรือผู้เสียหายคิดว่าเป็นการเสียเวลา เพราะยอดความเสียหายน้อยจึงไม่ได้มาแจ้งความ
สืบเนื่องจากบริษัทธัญวรรณ จำกัด เข้าแจ้งความว่า ถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงซื้อสินค้าจากบริษัท ผ่านทางแอฟฟิเคชั่นเฟสบุ๊ก ซึ่งบริษัทเปิดขายสินค้าออนไลน์หลายรายการ โดย น.ส.ศุธิดา ใช้เฟสบุ๊กส่วนตัวติดต่อซื้อสินค้าจากบริษัท หลายรายการเมื่อตกลงราคากันได้ซึ่งเป็นเงินจำนวนหลายแสน แล้วทำการโอนเงินเพื่อชำระค่าสินค้าที่สั่งซื้อทั้งหมด แต่น.ส.ศุธิดา ได้ทำการโอนเงินเพียงแค่ 1 บาทเท่านั้น แล้วทำการแก้ไขเปลี่ยนแปลงจำนวนเงินที่โอนในสลิปทำให้เท่ากับยอดจำนวนที่ได้สั่งซื้อหลายแสนบาท แล้วส่งไปยืนยันกับทางบริษัท ผ่านช่องทางเฟสบุ๊ก จนทำให้บริษัทหลงเชื่อทำการจัดส่งสินค้าไปให้กับน.ส.ศุธิดา ซึ่ง ได้กระทำการเช่นเดิมแล้วหลายครั้ง บางครั้งผู้เสียไม่มาแจ้งความเพราะยอดความเสียหายจำนวนไม่มาก หรือผู้เสียหายคิดว่าเป็นการเสียเวลา เพราะยอดความเสียหายน้อยจึงไม่ได้มาแจ้งความ