ปธ.สภาเกษตรกรฯ ชี้หากต้องการเห็นการผลิตที่ยั่งยืนขึ้นและปัญหาภาคการเกษตรยุติลงต้องทำงานเชิงรุก เมื่อวันที่ 22 ก.ย. นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เปิดเผยว่า การประชุมคณะอนุกรรมการวิเคราะห์และสนับสนุนเศรษฐกิจรายสาขา ณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ว่าด้วยเรื่องของการวิเคราะห์และแนวทางในการเยียวยาผลกระทบกรณีโควิดรายสาขา โดยตนอยู่ในส่วนสาขาภาคเกษตร ซึ่งต้องขอขอบคุณรัฐบาลที่ได้กรุณาฟังเสียงเกษตรกรจัดงบประมาณช่วยเหลือเยียวยาถึงแม้ยามนี้ค่าใช้จ่ายในครัวเรือนยังลำบากอยู่ ความช่วยเหลือในระยะสั้นของรัฐบาลถือว่าผ่าน แต่ก็อยากเห็นมาตรการความช่วยเหลือระยะกลางและระยะยาวด้วย ทั้งนี้ ได้เสนอในที่ประชุมถึงมาตรการรับมือวิกฤตโรคระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยเฉพาะด้านการเกษตร คือ ขอให้ตั้งทีมคิดวิเคราะห์สถานการณ์ด้านพืชและสัตว์เศรษฐกิจของประเทศ เพื่อวางแนวทางในการบริหารจัดการและเพื่อการตัดสินใจของเกษตรกรทั้งระยะสั้นและระยะยาวรวมถึงสื่อสารให้เกษตรกรได้ปรับตัว,มาตรการช่วยเหลือด้านหนี้สินเกษตรกร โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนี้จากการกู้เพื่อซื้อเครื่องจักรกลทางการเกษตรซึ่งรัฐบาลได้กรุณาเจรจากับเจ้าหนี้ไฟแนนซ์ผ่อนผันให้ 3 เดือน ซึ่งบัดนี้หมดเวลาแล้ว หากจะขอให้ช่วยผ่อนปรนไปจนถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยวเพื่อให้เกษตรกรได้ผ่อนชำระต่อไป ,ภาคราชการต้องทำงานในเชิงรุก ด้วยการเข้าไปช่วยเกษตรกร/ประชาชนในรายครัวเรือน เพื่อแก้ไขปัญหาที่มีความหลากหลาย ซึ่งมองว่าการตั้งรับไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาจากสถานการณ์ปัจจุบัน และจัดตั้งกองทุนปรับโครงสร้างการผลิต งบประมาณ 50,000 ล้านบาท โดยรัฐบาลเป็นเจ้าของโครงการและสนับสนุนให้เกษตรกรกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำหรือร่วมทุนเพื่อการผลิตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยในที่ประชุมก็รับว่าจะดำเนินการต่อไป "อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะยากในข้อเสนอต่างๆ แต่หากต้องการเห็นการปรับเปลี่ยนการผลิตที่ยั่งยืนขึ้นและปัญหาภาคการเกษตรยุติลง เกษตรกรสามารถยังชีพพึ่งตัวเองได้ในที่สุด โดยเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรับปากว่าจะผลักดันข้อเสนอดังกล่าวให้ต่อไป"ประธานสภาเกษตรกร กล่าว