ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาถึงความเคลื่อนไหวของสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)ในการลงมติญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 6ฉบับ ระหว่างวันที่ 23-24ก.ย ว่า ขณะนี้เสียงส.ว.ยังก้ำกึ่งระหว่างฝ่ายที่สนับสนุนให้แก้รัฐธรรมนูญกับฝ่ายที่ต่อต้านการแก้รัฐธรรมนูญ โดยฝ่ายคัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญนั้น มีเสียงเกือบ 100เสียง แสดงจุดยืนชัดเจนไม่เห็นด้วยกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 6ฉบับ ทั้งในส่วนการตั้งส.ส.ร.มายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่และการแก้ไขรายมาตรา เพราะไม่มั่นใจว่า การตั้งส.ส.ร.มายกร่างใหม่ทั้งฉบับ จะไม่แก้เนื้อหาเลยเถิดไปถึงหมวด1และ2ด้วย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่กลุ่มสนับสนุนให้แก้รัฐธรรมนูญ มีอยู่ 60เสียง ส่วนใหญ่เป็นส.ว.ที่มีฐานอยู่ทางภาคอีสาน แม้จะมีจำนวนเสียงน้อยกว่าอีกฝ่าย แต่แนวโน้มมีจำนวนเสียงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยมีเสียงจากส.ว.สายทหาร ตำรวจ และอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ที่เคยสงวนท่าทีอยู่ก่อนหน้านี้มาสนับสนุนเพิ่มเติมมากขึ้น แต่ไม่กล้าเปิดหน้าแสดงออกอย่างเต็มตัว เนื่องจากเห็นว่า ควรลดกระแสการชุมนุมของนักเรียน นักศึกษาและประชาชนที่ออกมากดดันให้แก้รัฐธรรมนูญ และรักษาภาพลักษณ์ของส.ว.ที่ควรฟังข้อเรียกร้องของประชาชน อย่างไรก็ตามการลงมติของส.ว.กลุ่มนี้ จะให้ความเห็นชอบเฉพาะญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ของพรรคร่วมรัฐบาลเท่านั้น เพื่อใช้ร่างดังกล่าวเป็นหลักในการแก้ไข ส่วนเนื้อหาที่จะแก้ไขอย่างไรให้ไปว่ากันในอนาคต ซึ่งรัฐบาลมั่นใจจะคอนโทรลเนื้อหาการแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นไปตามที่ต้องการได้ ถือเป็นทางออกที่ประนีประนอมดีที่สุดในสถานการณ์ขณะนี้ ช่วยยื้อเวลาให้รัฐบาลทำงานต่อได้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา256 ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน และร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราอีก 4ญัตติ จะไม่ให้ความเห็นชอบ ขณะนี้กำลังรอสัญญาณสุดท้ายจากรัฐบาลยืนยันจะให้โหวตผ่านร่างแก้รัฐธรรมนูญฉบับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ หลังจากฝ่ายรัฐบาลส่งสัญญาณมาชัดเจนแล้ว คาดว่าจะมีเสียงส.ว.เกิน 84เสียง สนับสนุนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญพรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงส.ว.ที่คัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญจะกลับลำมาสนับสนุนโหวตผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของฝ่ายรัฐบาลเช่นกัน