อดีตผู้สมัครส.ส.รวมพลังประชาชาติไทย สมุทรสาคร ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯอัศวิน ให้ตรวจสอบหมุดที่หายไปว่าใครสั่ง ฐานที่กทม.ดูแลพื้นที่ พร้อมเตือนแกนนำชุมนุมให้กลับตัวกลับใจใหม่ ออกมาขอโทษในสิ่งที่กระทำการจาบจ้วงจากที่ชุมนุมกันเลยเถิดเกินสิทธิตามประชาธิปไตย ชมเยาวชนมีความคิดดีแต่อย่าเป็นเครื่องมือใคร ขณะกทม.เตรียมประชุมพิจารณาข้อกฎหมายหลังมีการชุมนุม เมื่อวันที่ 21 ก.ย.63 นายสนธิญา สวัสดี อดีตผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 สมุทรสาคร พรรครวมพลังประชาชาติไทย ได้เดินทางมาที่ศาลาว่าการกทม.(เสาชิงช้า) เพื่อร้องให้พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. ตรวจสอบหมุดที่หายไปว่าเป็นคำสั่งของหน่วยงานใด ในฐานะที่กทม.เป็นผู้ดูแลสนามหลวง ตามหลักเกณฑ์ระเบียบกรุงเทพมหานคร ว่าด้วยการใช้การบำรุงและดูแลรักษาพื้นที่ท้องสนามหลวง ปี 2555 หากผู้ว่าฯกทม.ไม่ดำเนินการ จะมายื่นหนังสืออย่างเป็นทางการอีกครั้ง ทั้งนี้ ได้ฝากถึงผู้ว่าฯให้ตรวจสอบใน 3 เรื่อง ประกอบด้วย 1.ให้ผู้ว่าฯกทม.ตรวจสอบว่าใครเป็นผู้กระทำการถอนหมุดออกไป ซึ่งหากไม่ใช่เจ้าพนักงานตามกฏหมาย ของหน่วยงานที่รับผิดชอบคือกรุงเทพมหานคร กับกรมศิลปากร ก็ถือว่ามีความผิด 2.บทบาทหน้าที่ของกทม. เกี่ยวกับการดำเนินการทางด้านกฎหมายในส่วนของสนามหลวง และ 3.ตนมาแสดงตัวว่าไม่ได้เป็นผู้ถอนหมุด นอกจากนี้ ขอให้กรมศิลปากร ในฐานะที่ดูแลโบราณสถาน เนื่องจากสนามหลวง ได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน ตาม พ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ตรวจสอบการรื้อถอนหมุดด้วย นอกจากนี้ นายสนธิญายังกล่าวเตือนไปยังกลุ่มแกนนำ ว่า อยากให้กลับตัวกลับใจ และออกมาขอโทษในสิ่งที่ได้กระทำการจาบจ้วงเนื่องจากขณะนี้ทางกลุ่มแกนนำได้ชุมนุมกันเลยเถิดจากการชุมนุมภายในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และไม่เป็นการชุมนุมตามเงื่อนไขภายใต้ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ซึ่งถ้าหากกลุ่มแกนนำได้แสดงให้เห็นว่ากลับตัวกลับใจแล้ว ก็จะไม่แจ้งความดำเนินคดีใดๆ ทั้งนี้ ตนมองว่า กลุ่มแกนนำเป็นเยาวชนที่มีความคิดกว้างไกล ไม่ควรตกเป็นเครื่องมือของผู้ใด ควรจะนำความคิดมาช่วยกันพัฒนาการเมืองไทยในด้านที่ถูกต้อง ด้านนางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกทม.กล่าวว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักสิ่งแวดล้อม สำนักการระบายน้ำ สำนักการโยธา เข้าสำรวจและตรวจสอบความเสียหาย ต้นไม้ หญ้า ท่อระบายน้ำ พื้นคอนกรีต ที่อยู่ภายในและบริเวณโดยรอบสนามหลวง ขณะเดียวกันจะพิจารณาข้อกฎหมาย ระเบียบที่เกี่ยวข้อง ในการใช้พื้นที่สนามหลวง เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย เนื่องจากกรุงเทพมหานครได้ออกหลักเกณฑ์ตามระเบียบกรุงเทพมหานคร ว่าด้วยการใช้การบำรุงและดูแลรักษาพื้นที่ท้องสนามหลวง ปี 2555 ไว้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม กรุงเทพมหานครจะมีการประชุมในเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป