"เพนกวิน"ยก 3 เหตุผลนำประสบความสำเร็จ ไม่กังวลหมายจับคดีอื้อ กร้าวฝาก "ศาลรัฐธรรมนูญ"คิดให้ดีอย่าผลักคน 2 แสนไปเป็นพวกล้มสถาบัน ลั่นใครรื้อ "หมุดคณะราษฎร" ขอให้มีเจอสิ่งอัปมงคล เมื่อวันที่ 20 ก.ย.63 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นายพริษฐ์ ชีวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม กล่าวภายหลังประกาศยุติการขุมนุมในวันนี้(20ก.ย.)ว่า การชุมนุมที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมหาศาลจากการต่อสู้อันยาวนานของเรา คือ 1.เราได้ทวงคืนจิตวิญญาณธรรมศาสตร์ ทำเพื่อประชาชนและประชาธิปไตย นักศึกษาและประชาชนได้ร่วมกันทวงคืนจากอธิการบดีที่รับใช้เผด็จการ 2. เราได้ยึดคืนสนามหลวง ซึ่งถือเป็นสถานที่ที่เป็นจิตวิญญาณของคนกรุงเทพฯ อีกทั้งสนามหลวงยังเป็นพื้นที่ที่ใช้ทำกิจกรรมตั้งแต่สมัยยังเป็นทุ่งพระเมรุ ตั้งแต่ก่อนตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ และเป็นที่ที่ใช้ชุมนุมทุกม็อบวันนี้เรามาคืนความเป็นชีวิตให้กับสนามหลวง และ เราได้ปักหมุด เพื่อให้สนามหลวงเป็นสนามราษฎร โดยสมบูรณ์ หากมีใครมารื้อหมุดเราก็ปักใหม่ได้อีกทั้งการรื้อหมุด ก็เหมือนการเหยียบหน้าประชาชน หากใครรื้อขอให้พบเจอแต่สิ่งอัปมงคล 3.เราส่งตัวแทนของเรายื่นหนังสือถึงพระมหากษัตริย์โดยตรงจ่าหน้าซองถึงพระมหากษัตริย์เป็นตัวอย่างให้ทุกกลุ่มทุกองค์กรว่าต่อไปนี้ราษฎรอย่างพวกเราสามารถสื่อสารไปยังพระมหากษัตริย์ได้เหมือนกัน และ4.เราพิสูจน์ให้สังคมไทยเห็นว่าการต่อสู้ เพื่อประชาธิปไตยและการเปลี่ยนแปลงสิ่งใดแม้กระทั่งโครงสร้างที่ใหญ่ที่สุดไม่จำเป็นต้องใช้ความรุนแรง “ก่อนนี้มีข่าวลือว่าตำรวจเตรียมใช้กระสุนจริง แต่วันจริงไม่มีอะไรสักอย่าง เพราะเราไม่มีความรุนแรงเหมือนการชุมนุมดังที่ผ่านมา ครั้งหน้าขอเบิ้มๆ กว่าเดิม โดยในการสังเกตการณ์ประชุมพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันที่ 24 ก.ย.นี้ ที่รัฐสภา กลุ่มประชาชนปลดแอกจะเป็นผู้จัดการชุมนุม” นายพริษฐ์ กล่าว เมื่อถามว่า หลังจากการยื่นหนังสือวันนี้จะมีการติดตามคำตอบอย่างไร นายพริษฐ์ กล่าวว่า ส่วนตัวก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่านายตำรวจที่มารับเป็นนายตำรวจราชองครักษ์ แต่แทนที่จะนำไปบอกกับสำนักพระราชวัง กลับนำไปบอกกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ก็ไม่เป็นอะไรต่อไปจะนำจดหมายฉบับเดิมไปอ่านหน้าวังให้รู้กันไป เมื่อถามว่า มีความกังวลเรื่องหมายจับและคดีความหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า  “ผมไม่รู้ ผมไม่สนใจเพราะหมายจับนี้ไม่มีความชอบธรรมใดๆตั้งแต่แรก ถูกจับทุกหมายที่ผมโดน เป็นประจักษ์พยานของความเน่าเฟะของระบบการเมืองและความยุติธรรมไทย ถ้าคุณจะจับนักศึกษาคนหนึ่งเพียงเพราะเขามาเรียกร้องประชาธิปไตยก็เอาสิ ผมโดนมาแล้วหนึ่งรอบจะกลัวอะไรอีกสักรอบ” เมื่อถามว่ากรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องล้มล้างการปกครอง นายพริษฐ์ กล่าวว่า 10 ข้อเรียกร้องดังกล่าว มีข้อใดที่ล้มล้างการปกครองบ้าง มีแต่บอกว่านี่คือการแก้วิกฤติศรัทธา ถ้าคุณคิดว่าเราไม่ล้มเจ้าเราก็ไม่ล้มเจ้า แต่ถ้าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าเราล้มเจ้า เท่ากับจะผลักให้เราล้มเจ้าไปจริงๆเลยใช่หรือไม่ลองพิจารณาดู และนี่ไม่ใช่การบอกกับตนและเพื่อนเพราะพวกเราเป็นตัวแทนของคนที่คิดเหมือนเหมือนกัน ซึ่งเมื่อวานก็มากัน 200,000 กว่าคนนั่นคือการตีตรา 200,000 กว่าคนคือคนล้มเจ้า และทุกคนที่เห็นด้วยที่มีมากกว่าครึ่งประเทศว่าล้มเจ้าก็ฝากศาลรัฐธรรมนูญให้คิดให้ดี