นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดบูรณาการความร่วมมือด้านพลังงานร่วมกันในการป้องกันผลกระทบจากพายุโซนร้อนโนอึล ทั้งด้านไฟฟ้าและเชื้อเพลิง โดยในส่วนของไฟฟ้าได้มอบหมายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เตรียมความพร้อมทั้งด้านบุคลากรและมาตรการป้องกันผลกระทบต่อประชาชน สำหรับมาตรการจะมุ่งเน้นให้ครอบคลุม 4 ด้านได้แก่ ด้านระบบส่งไฟฟ้าได้มีการจัดเตรียมเจ้าหน้าที่เฉพาะกิจเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดเตรียมเสาไฟฟ้าชั่วคราวและอุปกรณ์ที่จำเป็นไว้รองรับกรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน ด้านความมั่นคงแหล่งผลิตไฟฟ้าและเชื้อเพลิง ได้มีการประสานเตรียมความพร้อมด้านเชื้อเพลิงที่เพียงพอ ด้านโรงไฟฟ้าและการรองรับน้ำในเขื่อนของ กฟผ.ได้มีการเตรียมความพร้อมบุคลากรด้านการผลิตและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้า ขณะเดียวกันได้มีการตรวจสอบความพร้อมของเขื่อนทุกพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากพายุดังกล่าว ได้แก่ เขื่อนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือประกอบด้วย เขื่อนน้ำพุง เขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนสิรินธร รวมถึงเขื่อนในภาคเหนือที่อาจได้รับผลกระทบประกอบด้วย เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เพื่อให้การผลิตไฟฟ้าเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมไฟฟ้าในประเทศ ด้านการสนับสนุนช่วยเหลือผู้ประสบภัย ได้มีการเตรียมจัดถุงยังชีพช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างทันที โดยด้านน้ำมันเชื้อเพลิง บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด(มหาชน)มีมาตรการในการป้องกันและตรวจสอบอุปกรณ์และระบบถังเก็บน้ำมันใต้ดินที่สถานีบริการน้ำมันให้อยู่ในสภาพที่ดีอยู่เสมอ เพื่อให้ประชาชนมั่นใจในคุณภาพของน้ำมันเชื้อเพลิงที่สถานีบริการน้ำมันว่า เป็นไปตามมาตรฐาน ไม่มีน้ำปนเปื้อน รวมถึงให้พนักงานเตรียมพร้อมรับมือตามแนวปฏิบัติในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินที่สถานีบริการน้ำมันเพื่อความปลอดภัยสูงสุดสำหรับผู้บริโภค นอกจากนี้ สำนักงานพลังงานจังหวัดในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศจะเตรียมการร่วมกับสถานีบริการน้ำมันในการตรวจคุณภาพน้ำมันกรณีสถานีบริการถูกน้ำท่วม พร้อมทั้งจะลงพื้นที่ให้คำปรึกษากับชาวบ้านกรณีอุปกรณ์ด้านพลังงานชุมชนอาทิ บ่อหมักก๊าซชีวภาพ พาราโบล่าโดมอบแห้ง หรือแผงโซลาร์เซลล์ที่อาจได้รับความเสียหายจากพายุดังกล่าว