นายอำเภอแคนดง จ.บุรีรัมย์ ตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมสั่งเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ 24 ชม. เตรียมแผนรับมือหากน้ำหลากท่วมระลอกสอง หลายภาคส่วนระดมถุงยังชีพแจกจ่ายบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบภัยทั้ง 400 ครัวเรือน (19 ก.ย.63) สถานการณ์น้ำที่เอ่อล้นจากอ่างเก็บน้ำแคนดง และมวลน้ำจากพื้นที่สูงในอำเภอใล้เคียง ได้หลากเข้าท่วมบ้านเรือน ร้านค้า ในเขตเทศบาลตำบลแคนดง อ.แคนดง อย่างฉับพลันในพื้นที่ 4 หมู่บ้าน คือ บ้านแคนดง หมู่ 1 , บ้านอนามัย 11 , บ้านเทพสัมพันธ์ หมู่ 15 และบ้านไมตรีจิต หมู่ 16 รวมถึงถนนสายหลัก และถนนในหมู่บ้านอีกหลายสาย ระดับน้ำท่วมสูงเฉลี่ย 50 – 60 เซนติเมตร สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนกว่า 400 หลังคาเรือน รวมถึงผู้ที่ขับรถสัญจรผ่านไปมาเส้นทางดังกล่าวได้ ล่าสุดปริมาณน้ำที่ท่วมขังบ้านเรือน ร้านค้า และถนนในเขตเทศบาลตำบลแคนดง ก็เริ่มลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง โดยระดับน้ำอยู่ที่ประมาณ 20 – 30 เซนติเมตร แต่ก็ยังสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 4 หมู่บ้าน และประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทั้งบริเวณลุ่มต่ำ ก็ยังคงเป็นกังวลเกรงว่าจะเกิดน้ำหลากเข้าท่วมเป็นระลอกที่สองอีก เนื่องจากน้ำยังล้นตลิ่งอ่างเก็บน้ำ ประกอบกับยังมีฝนตกในพื้นที่จากอิทธิพลของพายุ “โนอึล” ที่พยากรณ์ไว้ว่าจะยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายจังหวัดภาคอีสาน จึงได้พากันขนย้ายสิ่งของที่จำเป็น เช่น ที่นอน เครื่องใช้ไฟฟ้า ขึ้นบนที่สูงเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำท่วมเสียหายเพิ่มเติมอีก รวมถึงช่วยกันบรรจุกระสอบทรายนำไปปิดกั้นทางเข้าออกบ้าน เพื่อป้องกันน้ำทะลักท่วมระลอกสองด้วย ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้มอบหมายให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เหล่ากาชาด อำเภอ ร่วมกับภาคเอกชน นำถุงยังชีพไปแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ อ.แคนดง ทั้ง 400 ครัวเรือน เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและสร้างขวัญกำลังใจในเบื้องต้น ด้านนายถาวร บุญศรี นายอำเภอแคนดง กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 4 หมู่บ้าน กว่า 400 ครัวเรือน ก็ได้มีการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยไว้ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอ พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ ได้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชั่วโมง หากเกิดน้ำหลากท่วมระลอกสองหรือระดับน้ำเพิ่มขึ้นอีก ก็จะได้เตรียมแผนในการอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ไปยังที่ปลอดภัย อย่างไรก็ตามคาดการณ์ว่าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม ระดับน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ก็จะลดลงภายใน 1 – 2 วัน แต่หากมีฝนตกลงมาอีกและน้ำจากพื้นที่สูงในอำเภอใกล้เคียงไหลมาสมทบ ปริมาณน้ำก็จะเพิ่มขึ้นอีก แต่ก็ได้มีการเตรียมแผนในการรับมือไว้แล้ว