"ป๊อบ แคลอรี่ บลา บลา"ให้ปากคำตำรวจ หลังถูกคนร้ายเข้าลักทรัพย์ มูลค่าเสียหายเกือบ6 แสนบาท จากกรณีเมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 มิ.ย.60 “ป๊อป แคลอรี่ บลา บลา“ หรือ นายปองกูล สืบซึ้ง นักร้องชื่อดัง อายุ 36 ปี เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลหัวหมาก หลังถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนเข้าลักทรัพย์ภายในบ้านเลขที่ 24 ซอยรามกำแหง 76 แยก 1 เขตบางกะปิ กทม.ได้ทรัพย์สินสูญหายเป็นจำนวนมาก ประกอบด้วยกล้องไลก้า ราคา 130,000 บาท เลนส์ถ่ายภาพ ราคาประมาณ 90,000 บาท สร้อยคอทองคำ สร้อยข้อมือ น้ำหนักประมาณ 10 บาท พระเลี่ยมทอง แหวน สร้อยมุก ต่างหู และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ รวมมูลค่าเกือบ 6 แสนบาท ตามที่เป็นข่าวแล้วนั้น ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปองกูล สืบซึ้ง ได้เข้าพบ พ.ต.ท.นพพร ศรีสุชาติ รองผกก. (สอบสวน) สน.หัวหมาก เพื่อให้ปากคำถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยละเอียด โดยเมื่อมาถึง สน.หัวหมากนายปองกูล ได้ขอเข้าพบพนักงานสอบสวนทันที พร้อมปฏิเสธให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ด้าน พ.ต.ท.นพพร เปิดเผยว่า วันนี้ได้เชิญนายปองกูล มาเล่าเหตุการณ์ทั้งหมด ซึ่งในการสอบถามครั้งแรกนายปองกูล ระบุว่าไม่พบร่องรอยการงัดประตูและหน้าต่าง แต่เมื่ิอเจ้าหน้าที่พฐ.ไปตรวจสอบบริเวณหน้าต่างไม้ชั้นล่าง ไม่มีเหล็กดัด เป็นเพียงกลอนธรรมดานั้นพบมีรอยงัดแงะ ถือเป็นข้อมูลใหม่ ทั้งนี้นายปองกูล ยังให้ข้อมูลว่าในบ้านหลังดังกล่าวทุกวันจะมีแม่บ้านมาทำความสะอาดบ้าน แบบไปเช้าเย็นกลับ ซึ่งจะต้องเชิญแม่บ้านมาสอบถามข้อมูลต่อไป ขณะที่ทางตำรวจฝ่ายสืบสวน ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยรอบ เพื่อหาเส้นทางหลบหนีของคนร้าย รวมทั้งตรวจสอบบุคคลที่เคยมีประวัติก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวในพื้นที่เพื่อนำมาตรวจสอบลายนิ้วมือว่าตรงกับลายนิ้วมือแฝงที่ พฐ.ตรวจสอบได้หรือไม่ ต่อมานายปองกูล ออกมาเปิดเผยภายหลังสอบปากคำนานกว่า 1ชั่วโมงว่า เมื่อวันที่25 มิ.ย. ตนกลับจากงานบวชช่วงเย็นก็พบประตูบ้านและข้าวของถูกรื้อค้น จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ เมื่อเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจก็พบว่ามีรอยงัดเข้ามาจากหน้าต่างบ้าน สอบถามแม่บ้านที่จ้างมาทำงานพบว่าตอนเช้าวัที่ 24 มิ.ย.ก็เข้ามาทำความสะอาดปกติ จนเวลา 17.00 น.ก็ปิดประตูบ้านกลับไป ขณะที่เพื่อนบ้านหลังติดกันระบุว่า ตัวเพื่อนบ้านนั่งเล่นและทานข้าวจนถึงเวลา 20.00 น.ก่อนจะขึ้นนอน ซึ่งตนคาดว่าคนร้ายน่าจะก่อเหตุหลังจากนั้นจนถึงเช้าของวันที่ 25 มิ.ย. นายปองกูล กล่าวต่ออีกว่า วันนี้ได้ทำบัญชีทรัพย์สินที่สูญหายมาให้พนักงานสอบสวน เมื่อทำโดยละเอียดพบว่ามีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นจำนวนมาก อาทิ สร้อยคอทองคำ สร้อยฝังเพชร พระสมเด็จจิตรลดา ซึ่งเป็นของมารดา มีคุณค่าทั้งทางมูลค่าและจิตใจ ในส่วนของตนนั้นเป็นกล้องไลก้า 3 ตัว และกล้องฟูจิอีก 1ตัว รวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมด 700,000 บาท สำหรับสภาพจิตใจของตนและแม่นั้น ยอมรับว่ายังกลัวและตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะตนอาศัยอยู่กับแม่เพียง 2 คน อยู่มา7-8 ปี ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ถือว่าเป็นครั้งแรก และคนร้ายดูเป็นมืออาชีพมาก เพราะตัดสัญญานไวไฟของตน รวมทั้งถอดอุปกรณ์กล้องวงจรปิดไปหมดเลย ทำให้ไม่สามารถเปิดภาพดูได้ ต้องอาศัยกล้องละแวกใกล้เคียงแทน โดยหลังจากนี้จะเตรียมป้องกันเหตุร้ายให้มากขึ้น