เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 กย. ที่บ้านน้ำซับ หมู่ 11 ต.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว นครราชสีมา นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ มอบหมายให้ นายพรชัย อำนวยทรัพย์ ส.ส.นครราชสีมา เขต 10 พรรคภูมิใจไทยพร้อมนายศารุมภ์ โหม่งสูงเนิน พาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดกิจกรรมเปิดตัว "หมู่บ้านอินทรีย์" ที่หมู่บ้านน้ำซับ ฯ กิจกรรมการแลกเปลี่ยนความองค์ความรู้และให้คำปรึกษา ตลอดจนการสัมมนาวิชาการเพื่อเพิ่มขีดความสามารถและศักยภาพของผู้ประกอบการไทยให้แข่งขันในระดับสากลได้ เพื่อเสริมสร้างโอกาสให้เกษตรกร และผู้ประกอบการในพื้นที่กว่า 300 ครัวเรือน ได้มีช่องทางการจำหน่ายสินค้าอินทรีย์ ซึ่งจะนำมาสู่การเจรจาทางธุรกิจเพื่อต่อยอดการขยายตลาดทั้งในประเทศจนถึงส่งออก มีการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ทั้งรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อสร้างกระแสการบริโภค Organic Life Style เพิ่มทางเลือกการบริโภคสิ่งที่มีประโยชน์ปราศจากสารเคมีและสารพิษตกค้าง ให้กับประชาชน ถือเป็นกิจกรรมเพื่อสร้างความรับรู้และตระหนักรู้ในวงกว้างเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นต่อการบริโภคสินค้าอินทรีย์ ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการบริโภคเพิ่มขึ้น อันจะส่งผลให้เกิดการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและกระจายรายได้หมุนเวียนสู่ชุมชน นำไปสู่การสร้างความเข้มแข็งและกระตุ้นระบบเศรษฐกิจของชุมชน นายพรชัย ส.ส.นครราชสีมา เขต 10 พรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคทั่วโลก เปลี่ยนไปสู่กระแสรักษ์สุขภาพและจากปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด19 ส่งผลให้ความต้องการสินค้าที่เกี่ยวกับสุขภาพและอนามัย ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยข้อมูลล่าสุดพบว่า ตลาดเกษตรอินทรีย์โลกมีมูลค่าสูงถึง 3 ล้านล้านบาท มีจำนวนเกษตรกรอินทรีย์ทั่วโลก รวมแล้วกว่า 2 ล้านคน มีพื้นที่เกษตรอินทรีย์ และพื้นที่ระยะปรับเปลี่ยนสู่เกษตรอินทรีย์รวมกันประมาณ 273 ล้านไร่ ประเทศที่มีพื้นที่เกษตรอินทรีย์มากที่สุด คืออินเดีย ยูกันดา และเม็กซิโก สำหรับประเทศไทยนั้น มีพื้นที่เกษตรอินทรีย์ประมาณ 235,000 ไร่ จำนวนเกษตรกรที่ทำเกษตรอินทรีย์มีประมาณเกือบ 10,000 ฟาร์ม มีผลผลิตมากกว่า 80,000 ตันโดยมูลค่าการส่งออกคิดเป็นประมาณ 4 พันล้านบาท ตลาดส่งออกเกษตรอินทรีย์ไทยที่สำคัญคือ สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์ ตามลำดับ ด้านนายศารุมภ์ พาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา เผยว่า สำหรับ " สหกรณ์กสิกรรมไร้สารพิษในเขตปฏิรูปที่ดิน อ.วังน้ำเขียว จำกัด ดำเนินการมาแล้ว 20 ปี มีกำไรเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงที่มีปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด19 ชุมชนแห่งนี้ยังคงทำกำไรจากการขายสินค้าออแกนิคได้เพิ่มขึ้นเท่าตัว และกำลังจะยกระดับการผลิตไปสู่การแปรรูป ปัจจุบันเกษตรกรมีรายได้จากการปลูกผักออแกนิคเฉลี่ยไร่ละ 10,000 บาทต่อเดือน ส่งสินค้าได้สัปดาห์ละ 3 วันเท่านั้น เนื่องจากสินค้าผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ไม่มีปัญหาด้านการตลาด มีความจำเป็นต้องส่งเสริมให้ศูนย์กสิกรรมไร้สารพิษวังน้ำเขียวแห่งนี้ เป็นต้นแบบหมู่บ้านอินทรีย์ หรือ Organic Village ที่มีการผลิตสินค้าได้คุณภาพมาตรฐาน มีช่องทางการตลาดและรายได้อย่างมั่นคงในอาชีพ และชุมชนอย่างยั่งยืน ซึ่งหลังจากนี้จะต้องมีการต่อยอด ขยายการรวมกลุ่มของเกษตรกรวังน้ำเขียวไปสู่เกษตรกรกลุ่มอื่น เพื่อสร้างเครือข่ายและอำนาจต่อรอง อันจะนำไปสู่ความเข้มแข็งของเกษตรอินทรีย์ ตลอดจนจะมีเชื่อมโยงพัฒนาตลาดและการท่องเที่ยวเชิงเกษตรอินทรีย์สู่หมู่บ้านอินทรีย์ เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าและรายได้สู่ชุมชนอื่นๆต่อไปในอนาคต