ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รศ.สุวินัย ภรณวลัย ประธานยุทธศาสตร์วิชาการ สถาบันทิศทางไทย โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กชื่อ Suvinai Pornavalai ระบุว่า...
โดยส่วนตัวผมมองว่า ม็อบนี้คือการต่อสู้เชิงสัญลักษณ์ว่าไม่เอาเจ้า เท่านั้น ได้แสดงออกและแสดงออกได้คือชัยชนะสำหรับพวกเขาแล้วในตัวของมันเอง ///// ปี 2549, 2551 คือ ม็อบพันธมิตรฯของคนเสื้อเหลือง ปี 2552,2553 คือ ม็อบนปช.ของคนเสื้อแดง ปี 2556-2557 คือ ม็อบกปปส.ของคนเสื้อหลากสี ปี 2563 คือ ม็อบของ"คนปลดแอก" ที่เป็นทัพผสมระหว่างมวลชนเสื้อแดงกับมวลชนของอดีตพรรคอนาคตใหม่ โดยที่มวลชนเสื้อแดงเป็นกองกำลังหลัก โปรดสังเกตว่า ม็อบแต่ละขั้วผลัดกันสำแดงพลังบนท้องถนนในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา โดยที่คราวนี้ถึงรอบของอีกขั้ว ซึ่งแสดงว่าสงครามเพื่อชิงอำนาจรัฐระหว่างสองขั้วมันยังไม่จบ ประชาชนทุกขั้วคือเบี้ยเหมือนเดิม เท่าที่เห็นตอนนี้คือ ม็อบนปช.คนเสื้อแดง 80 % ที่ฉาบหน้าและดันให้แกนนำเยาวชนปลดแอกออกตัวเป็นหัวหอกเท่านั้น เมื่อสภาพความจริงของม็อบวันที่ 19 กันยายนที่บุกเข้าไปในธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์เป็นแบบนี้แล้ว ... ย่อมมีผลกระทบทางการเมืองตามมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ตอนนี้แค่รอดูว่าม็อบ"แดง-ส้ม"ครั้งนี้จะยังชูขัอเสนอ 10 ข้อ เพื่อจำกัดพระราชอำนาจของสถาบันกษัตริย์ด้วยแนวคิดปฏิกษัตริย์นิยม เป็นการสานต่อการชุมนุมวันที่ 10 สิงหาคม ที่ธรรมศาสตร์รังสิตอีกหรือไม่ โดยส่วนตัวผมมองว่า ... #ม็อบนี้คือการต่อสู้เชิงสัญลักษณ์ว่าไม่เอาเจ้า เท่านั้น แสดงออกได้คือชัยชนะสำหรับพวกเขาในตัวของมันเอง