ที่รัฐสภา มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. เป็นประธานในการประชุม ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาร่างพ.ร.บ.ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ...ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ โดยนายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.กระทรวงการคลัง ชี้แจงสาระสำคัญว่า เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินและเพื่อให้ประเทศไทยเข้าเป็นสมาชิกขององค์กรต่อต้านการฟอกเงินแปซิฟิก และมีพันธกรณีที่ต้องเข้ารับการประเมินการปฏิบัติตามมาตรฐานสากล ด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินละการต่อต้าน การสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย จึงต้องแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน เพื่อกำหนดมาตรการทางกฎหมายเกี่ยวกับการส่งหรือนำเงินตรา เงินตราต่างประเทศ หรือตราสารเปลี่ยนมือออกไปนอกหรือเข้ามาในประเทศ รวมทั้งกำหนดให้เงินตรา เงินตราต่างประเทศ และตราสารเปลี่ยนมือเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร จากนั้นสมาชิกสนช.ได้แสดงความเห็นอย่างกว้างขวาง โดยนายศิริพล ยอดเมืองเจริญ สมาชิกสนช.กล่าวว่า การใช้สกุลเงินบิทคอยน์ (Bitcoin) จะทำให้เกิดการโจรกรรมทางการเงินได้ง่ายขึ้น ซึ่งในกฎหมายฉบับนี้ยังไม่มีแนวทางป้องกันเรื่องเงินบิทคอยน์ (Bitcoin) ส่วนกรณีที่มีเว็บไซต์ในต่างประเทศที่เปิดให้ชำระเงินผ่านคิวอาร์โค้ด ซึ่งประเด็นนี้ต้องรอบคอบ ฉะนั้น ธนาคารพาณิชย์ต้องมีความละเอียดมากขึ้นโดยเฉพาะการออกเช็คเงินสด ตราสารต่างๆ ขณะที่ นายกิตติ วะสีนนท์ และพล.ต.ท.บุญเรือง ผลพานิชย์ สมาชิกสนช.ได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับมาตรา 3 เรื่องตราสารเปลี่ยนมือที่ไม่มีการแก้ไขไปจากเดิม จึงขอให้กรรมาธิการตรวจสอบเนื้อหาของมาตรา 3 ด้วย รวมถึงการใช้คิวอาร์โค้ดในการกำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมีอำนาจออกกฎกระทรวงกำหนดเกี่ยวกับการส่ง หรือนำเงินตรา เงินตราต่างประเทศ และตราสารเปลี่ยนมือออกไปนอกประเทศหรือเข้ามาในประเทศ ต้องเพิ่มรายละเอียดที่ชัดเจนมากขึ้น จึงขอให้รัฐบาลและกรรมาธิการต้องเร่งออกกฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องการใช้คิวอาร์โค้ดในด้านเศรษฐกิจ เพราะเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงกับประเทศโดยตรง อย่างไรก็ตามที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวด้วยคะแนน 175 เสียง ไม่เห็นด้วย 1 เสียง งดออกเสียง 4 เสียง โดยให้คณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงินและการคลัง พิจารณา ระยะเวลาดำเนินงานภายใน 30 วัน