เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 18 ก.ย.63 พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 พ.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 พ.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล รอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พ.ต.อ.พิรศักดิ์ รอดบน ผู้กำกับการตำรวจภูธรบางพลี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 และจังหวัดสมุทรปราการ กำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บางพลี ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัวสองผู้ต้องร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงนายธนวัฒน์ หรือ ไอซ์ คงชมแพ่ง อายุ 18 ปี เสียชีวิตที่หน้าบ้านเลขที่ 31 / 31 หมู่ 12 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อช่วงกลางดึกคืนวันที่ 8 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา ประกอบด้วย นายสุพจน์ การะเกษ อายุ 42 ปี ชาวจังหวัดเลย ซึ่งเป็นมือปืน และนายวรกาญจน์ ยอดดี อายุ 47 ปี พี่เขยของผู้ตาย ซึ่งทำงานอยู่ที่ อบต.แห่งหนึ่งในอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นผู้จ้างวานและจัดหาอาวุธปืน พาหลบหนีหลังก่อเหตุ โดยจับกุมนายสุพจน์ ได้ที่บ้านเลขที่ 70 หมู่ 2 ต.หนองโพรง อ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี ส่วนนายวรกาญจน์ จับกุมตัวได้ที่ท้ายซอยหมู่บ้านสินเพชร หมู่ 11 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พร้อมด้วยของกลางอาวุธปืนขนาด 9 มม. ยี่ห้อ กล็อก ที่ใช้ก่อเหตุ รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า คลิ๊ก สีแดงดำ ทะเบียน 1 กม-9544 นครราชสีมา รถยนต์เก๋งยี่ห้อ เชฟโรเลต สีเทา ทะเบียน 2 กฉ 4992 กรุงเทพมหานคร ที่ใช้พาผู้ก่อเหตุหลบหนี พร้อมเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันที่ก่อเหตุ
จากการสอบสวนนายวรกาญจน์ พี่เขยผู้ตายซึ่งเป็นผู้จ้างวาน ได้ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ตนและผู้ตายมีปัญหากันมาหลายครั้งในเรื่องที่ผู้ตายชอบทำร้ายร่างกายลูกของตนทั้งสองคนซึ่งมีอายุเพียงแค่ 4 ขวบและ 2 ขวบ และมีพฤติกรรมติดยาเสพติด ชอบพาเพื่อน ๆ มานั่งมั่วสุมยาเสพติดที่บ้าน จนทำให้มีปัญหากันหลายครั้ง ตนจึงได้ว่าจ้างให้นายสุพจน์ ซึ่งทำงานเป็นคนงานก่อสร้าง และเคยถูกจับกุมได้คดีพยายามฆ่ามาก่อนแล้ว ให้มายิงผู้ตาย โดยที่ตนเป็นคนนำปืนกระบอกดังกล่าวที่รับจำนำไว้มาให้นายสุพจน์ เป็นคนลงมือยิงผู้ตายโดยให้ค่าจ้างจำนวน 2 หมื่นบาท ซึ่งมีการวางแผนล่วงหน้าก่อนลงมือ 2 อาทิตย์ โดยการติดตามพฤติกรรมของผู้ตาย จนกระทั่งในวันที่ 8 กันยายน สบโอกาสตนได้ขับรถพานายสุพจน์ มาส่งที่ทางลงสะพานซึ่งอยู่ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ก่อนที่นายสุพจน์ จะเดินมาดักซุ่มรอผู้ตายอยู่ในป่าหญ้าตรงข้ามหน้าบ้านที่เกิดเหตุ ส่วนตนขับรถไปรอที่หน้าร้านสะดวกซื้อ ที่อยู่ปากซอยทางด้านตำหรุ-คลองเก้า จนกระทั่งผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่หน้าบ้านพักกำลังจะเปิดประตูรั้วเข้าบ้าน นายสุพจน์ จึงได้ใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงผู้ตายหลายนัด จนผู้ตายล้มฟุบก่อนที่จะเดินข้ามถนนมาจ่อยิงที่ศีรษะผู้ตายอีก 1 นัดจนผู้ตายแน่นิ่งไปก่อนที่จะวิ่งหลบหนีออกไปทางปากซอยและโทรเรียกให้ตนขับรถมารับพาหลบหนีไปไปกบดาลที่จังหวัดปราจีนบุรี ก่อนที่ตนจะขับรถกลับมาที่บ้านพักเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ตามมาจับกุมดังกล่าว
หลังจากที่ทำการแถลงข่าวเป็นที่เรียบร้อย พ.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 พ.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล รอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พ.ต.อ.พิรศักดิ์ รอดบน ผู้กำกับการตำรวจภูธรบางพลี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 และจังหวัดสมุทรปราการ ได้ร่วมกันคุมตัวนายสุพจน์ มือปืนและนายวรกาญจน์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังหน้าบ้านที่เกิดเหตุ โดยใช้เวลาในการทำแผนนานกว่า 1 ชั่วโมงจึงคุมตัวนายสุพจน์ และนายวรกาญจน์ กลับมาที่ สภ.บางพลี พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาต่อนายสุพจน์ ว่า ฆ่าผู้อื่น พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ยิงปืนในเมืองหมู่บ้านโดยใช่เหตุ ส่วนนายวรกาญจน์ ถูกแจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนโดยเป็นผู้จ้างวาน ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตไม่มีเหตุอันควร ร่วมกันยิงปืนซึ่งใช่ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ก่อนควบคุมตัวไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบสวนนายวรกาญจน์ พี่เขยผู้ตายซึ่งเป็นผู้จ้างวาน ได้ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ตนและผู้ตายมีปัญหากันมาหลายครั้งในเรื่องที่ผู้ตายชอบทำร้ายร่างกายลูกของตนทั้งสองคนซึ่งมีอายุเพียงแค่ 4 ขวบและ 2 ขวบ และมีพฤติกรรมติดยาเสพติด ชอบพาเพื่อน ๆ มานั่งมั่วสุมยาเสพติดที่บ้าน จนทำให้มีปัญหากันหลายครั้ง ตนจึงได้ว่าจ้างให้นายสุพจน์ ซึ่งทำงานเป็นคนงานก่อสร้าง และเคยถูกจับกุมได้คดีพยายามฆ่ามาก่อนแล้ว ให้มายิงผู้ตาย โดยที่ตนเป็นคนนำปืนกระบอกดังกล่าวที่รับจำนำไว้มาให้นายสุพจน์ เป็นคนลงมือยิงผู้ตายโดยให้ค่าจ้างจำนวน 2 หมื่นบาท ซึ่งมีการวางแผนล่วงหน้าก่อนลงมือ 2 อาทิตย์ โดยการติดตามพฤติกรรมของผู้ตาย จนกระทั่งในวันที่ 8 กันยายน สบโอกาสตนได้ขับรถพานายสุพจน์ มาส่งที่ทางลงสะพานซึ่งอยู่ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ก่อนที่นายสุพจน์ จะเดินมาดักซุ่มรอผู้ตายอยู่ในป่าหญ้าตรงข้ามหน้าบ้านที่เกิดเหตุ ส่วนตนขับรถไปรอที่หน้าร้านสะดวกซื้อ ที่อยู่ปากซอยทางด้านตำหรุ-คลองเก้า จนกระทั่งผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่หน้าบ้านพักกำลังจะเปิดประตูรั้วเข้าบ้าน นายสุพจน์ จึงได้ใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงผู้ตายหลายนัด จนผู้ตายล้มฟุบก่อนที่จะเดินข้ามถนนมาจ่อยิงที่ศีรษะผู้ตายอีก 1 นัดจนผู้ตายแน่นิ่งไปก่อนที่จะวิ่งหลบหนีออกไปทางปากซอยและโทรเรียกให้ตนขับรถมารับพาหลบหนีไปไปกบดาลที่จังหวัดปราจีนบุรี ก่อนที่ตนจะขับรถกลับมาที่บ้านพักเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ตามมาจับกุมดังกล่าว
หลังจากที่ทำการแถลงข่าวเป็นที่เรียบร้อย พ.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 พ.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล รอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พ.ต.อ.พิรศักดิ์ รอดบน ผู้กำกับการตำรวจภูธรบางพลี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 และจังหวัดสมุทรปราการ ได้ร่วมกันคุมตัวนายสุพจน์ มือปืนและนายวรกาญจน์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังหน้าบ้านที่เกิดเหตุ โดยใช้เวลาในการทำแผนนานกว่า 1 ชั่วโมงจึงคุมตัวนายสุพจน์ และนายวรกาญจน์ กลับมาที่ สภ.บางพลี พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาต่อนายสุพจน์ ว่า ฆ่าผู้อื่น พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ยิงปืนในเมืองหมู่บ้านโดยใช่เหตุ ส่วนนายวรกาญจน์ ถูกแจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนโดยเป็นผู้จ้างวาน ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตไม่มีเหตุอันควร ร่วมกันยิงปืนซึ่งใช่ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ก่อนควบคุมตัวไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป