“กรมป่าไม้” จัดพิธีบวงสรวงรำลึกคุณความดีบรรพชนและวีรชนป่าไม้ เนื่องในโอกาสครบรอบวันสถาปนา 124 ปี 18 กันยายน 2563 ประกาศสานต่อ 5 ภารกิจ เพื่อก้าวสู่ปีที่ 125 เดินหน้าพัฒนาระบบปฏิบัติการ “พิทักษ์ไพร” ใช้เทคโนโลยีดาวเทียมไล่ต้อนแก๊งรุกป่า ส่งเสริมปลูกไม้มีค่า ขยายผล ป่าชุมชน 15,000 แห่ง เร่งจัดสรรที่ดิน 5 ลุ่มน้ำ และเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ประเทศ พร้อมขับเคลื่อนภารกิจด่วนช่วยคนไทยสู้ภัย “โควิด” ลุยจ้างงาน 30,000 อัตรา ทั่วประเทศ วันที่ 18 กันยายน 2563 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ข้าราชการ และพนักงานกรมป่าไม้ ได้ร่วมกันทำพิธีถวายเครื่องสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 5 และวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์วีรชนป่าไม้ เพื่อรำลึกถึงคุณความดีของบรรพชนและวีรชนป่าไม้ เนื่องในโอกาสครบรอบ 124 ปี วันสถาปนากรมป่าไม้ ภายในงานมีพิธีมอบโล่รางวัล เกียรติบัตร หนังสือชมเชยแก่ผู้ช่วยเหลือราชการกรมป่าไม้ และรางวัลอื่น ๆ โดยมี นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้เกียรติเป็นประธานในการมอบรางวัล นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 124 ปีที่ผ่านมา กรมป่าไม้ ได้มุ่งมั่นปฏิบัติภารกิจการบริหารทรัพยากรป่าไม้ของชาติให้เกิดความสมดุลและยั่งยืน โดยปัจจุบันได้กำหนดวิสัยทัศน์การเป็นหน่วยงานที่มุ่งมั่นรักษาป่า ส่งเสริมไม้มีค่า ป่าชุมชน คนอยู่กับป่า เพิ่มพื้นที่สีเขียวเพื่อความสุขของคนไทย โดยมีภารกิจ 5 ด้าน ที่เรามุ่งมั่นดำเนินการในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ประกอบด้วยการป้องกันและรักษาป่า โดย กรมป่าไม้ ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA พัฒนาระบบปฏิบัติการพิทักษ์ไพร โดยนำเทคโนโลยีภาพถ่ายดาวเทียมความละเอียดสูง มาวิเคราะห์ความเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ป่า เพื่อตรวจจับการรุกป่าแบบเรียลไทม์ โดยหากพบความผิดปกติที่ป่าบริเวณใด ระบบจะส่งการแจ้งเตือนถึงกรมป่าไม้และส่งข้อมูลต่อไปยังแอปพลิเคชันในสมาร์ตโฟนของเจ้าหน้าที่ ซึ่งมีระบบนำทางเข้าไปตรวจสอบยังจุดต้องสงสัย โดยที่ผ่านมาระบบสามารถระบุพื้นที่ให้เจ้าหน้าที่เข้าทำการจับกุมการบุกรุกป่าได้ถึงกว่า 2,000 ไร่ อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวต่อว่า นอกจากภารกิจหลักทั้ง 5 ด้านดังกล่าว ในรอบปีที่ผ่านมา กรมป่าไม้ ยังได้เข้าไปมีส่วนช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมีการจ้างงานให้ประชาชนเข้าไปช่วยงานป่าไม้ทั่วประเทศ 5,000 คน และในปี 2564 ยังได้รับการสนับสนุนงบประมาณภายใต้โครงการกู้เงินของรัฐบาล เพื่อนำมาจ้างงานในตำแหน่งต่าง ๆ เช่น จ้างงานฟื้นฟูป่า จ้างลาดตระเวน จ้างเพาะกล้าไม้ สร้างเรือนเพาะชำชุมชน และเป็นผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ดำเนินการเรื่องการจัดที่ดินชุมชนและป่าชุมชน รวม 30,000 คน ในอัตราค่าจ้างเดือนละ 9,000 บาท เป็นเวลา 12 เดือน “ภารกิจทั้ง 6 ด้านนี้ คือ สิ่งที่เราได้ลงมือทำตลอดปีที่ผ่านมา และเป็นเป้าหมายสำคัญที่จะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องให้สำเร็จในช่วงของการก้าวย่างสู่ปีที่ 125 ของกรมป่าไม้ ทั้งเรื่องการรักษาป่าที่ต้องเข้มงวดต่อไป การส่งเสริมการปลูกไม้มีค่า การขยายผลป่าชุมชนให้ครบ 15,000 ชุมชน การจัดสรรที่ดินทำกินให้แล้วเสร็จในทุกพื้นที่ และการรณรงค์เพิ่มพื้นที่สีเขียว ทั้งหมดนี้ คือ ความท้าทายที่เราจะต้องทำให้บรรลุตามเป้าหมายให้เร็วที่สุด” อธิบดีกรมป่าไม้กล่าว