วันที่ 17 ก.ย.63 พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ประธานคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยววุฒิสภาและคณะ​กรรมาธิการ​การท่องเที่ยว ได้ลงพื้นที่ ติดตามความพร้อม ในการเปิดรับนักท่องเที่ยว หลังสถานการณ์​การระบาดของโรคโควิด 19 และพบปะผู้ประกอบการท่องเที่ยว จ.กระบี่ ที่ห้องประชุมพนมเบญจา ชั้น 5 ศาลากลาง จ.กระบี่ โดยมี ผู้ประกอบการโรงแรม ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ​จ.กระบี่ เข้าร่วม รับฝังข้อเสนอแนะ ปรากฏว่า ในจังหวัดกระบี่ มี โรงแรม เพียง 2 โรงแรมเท่านั้นที่พร้อมให้บริการนักท่องเที่ยวต่างประเทศอยู่ในเกาะพีพี 1 แห่ง และเกาะลันตา 1 แห่ง นอกจากนั้นไม่มีความประสงค์เข้าร่วมตามโครงการที่ทางรัฐบาลเสนอ ทางด้านนายอิทธิฤทธิ์​ กิ่งเล็ก อดีตประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และผู้ประกอบการโรงแรมในพื้นที่จังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ปัจจุบัน การท่องเที่ยว ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ค่อนข้างจะซบเซา โดยเฉพาะวันธรรมดา เนื่องจาก ไม่มีนักท่องเที่ยว ต่างชาติเดินทางเข้ามา แต่จริงๆแล้ว รัฐบาลมีทางเลือก ที่จะให้การท่องเที่ยวกลับมาคึกคักเหมือนเดิม อยากให้รัฐบาล กระตุ้นการท่องเที่ยว ภายในประเทศ ให้มากขึ้น โดยเฉพาะ ท่องเที่ยวในวันธรรมดา เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ เพราะส่วนใหญ่ ขณะนี้จากนโยบายของรัฐบาล พบว่า จะมีการส่งเสริมสนับสนุนให้เดินทางท่องเที่ยว ในช่วงวันหยุดยาว หรือ เสาร์อาทิตย์ เท่านั้น และนอกจากนี้ทางภาครัฐควรส่งเสริมให้ผู้สูงอายุ ได้เดินทางท่องเที่ยว โดยออกรูปแบบการใช้คูปองแทนสมัครผ่านแอปพลิเคชัน​เนื่องจากผู้สูงวัย บางคนไม่ชำนาญ เชื่อว่าจะกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศเพิ่มขึ้น นอกจากนี้อยากให้ ทางรัฐบาล กระตุ้นการท่องเที่ยว โดยการ ทำให้พืชผล ทางการเกษตร มีราคา ที่ แพงขึ้น โดยเฉพาะ ยางพารา และปาล์มน้ำมัน เชื่อว่า กลุ่มเกษตรกรเหล่านี้ เป็นกลุ่ม ที่มีกำลังซื้อ ค่อนข้างจะสูงเช่นเดียวกัน ซึ่ง จะทำให้ตลาดการท่องเที่ยวไทย กลับมา คึกคักอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่า จะไม่มีนักท่องเที่ยว ต่างชาติ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ในช่วงนี้ก็ตาม โดยจะเห็นได้จากที่ผ่านมา ขณะที่ยางกิโลกรัมละ 60-100 บาท ปาล์มน้ำมัน ราคาที่ 5 บาทถึง 10 บาท ในตอนนั้นเศรษฐกิจ ค่อนข้างจะคึกคัก ผู้สื่อข่าว รายงานว่า ทางผู้ประกอบการท่องเที่ยวในจังหวัดกระบี่ ได้ตั้งข้อสังเกตุว่า ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ เขามาในประเทศไทย 99 เปอร์เซ็นต์ ติดเชื้อโควิด 19 มา เหมือนกับว่า ตั้งใจที่จะมารักษาโรคในเมืองไทย ไม่มราบว่า การเข้ามาอยู่สถานที่กักกัน ผู้ที่มาจากต่างประเทศออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด หรือมาอาศัยเงินภาษีของคนไทย ที่ทางรัฐบาลจัดให้ ไม่ทราบว่า ค่าใช้จ่ายต่อคนที่นำเชื้อเข้ามา แล้วรักษาจนหายในเมืองไทย สุทธิแล้วคนละกี่พัน กี่หมื่นบาท มั้นคุ้มกันหรือไม่ กับการเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามา แล้วมาคอยดูแล มารักษาโรคจนหาย กับเงินที่เสียไป