เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2563 ที่วัดเจดีย์ ตำบลฉลอง อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช หลังจากที่เป็นข่าวมาอย่างต่อเนื่องปมที่นายบิณฑ์ และนายเอกพันธ์ บันลือฤทธิ์ ได้ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กบริเวณอุโบสถชั้นล่างที่ตั้งรูปแกะสลักของไอ้ไข่เด็กวัดเจดีบ์จนกลายเป็นปมที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ และยังส่งผลให้วัดเจดียืได้สั่งพักงานเจ้าหน้าที่วัด 16 คนที่คอยดูแลสถานที่เนื่องจากผิดกฎเกณฑ์กติกาที่กำหนดไว้ นางซีจิ้ว โจมฤทธิ์ หัวหน้าทีมเจ้าหน้าที่วัดเจดีย์ ได้เปิดเผยถึงการปฏิบัติตามกฎกติกาว่าทางเจ้าหน้าที่วัดทั้ง 16 คนมาจาก 8 ครอบครัวที่ขายของอยู่ในวัด ดังนั้นการพักงานของเขานอกจากหยุดการทำหน้าที่ดูแลวัดแล้ว ผู้ที่ขายของอยู่ทั้ง 8 ครอบครัวต้องหยุดด้วยเท่ากับเสียหายได้ไป 1 เดือน จะไปทำงานอื่นก็ไม่ได้เพราะว่างงานเพียง 1 เดือนเท่านั้น แต่ต้องทำความเข้าใจว่าการเป็นเจ้าหน้าที่วัด วัดไม่ได้จ่ายเงินเดือนให้พวกเราต้องมาทำหน้าที่ดูแลเพราะวัดให้สิทธิในการขายของด้วยที่เป็นครอบครัวอยู่กับวัดมาดั้งเดิม ครอบครัวที่ได้สิทธิต้องทำงานตอบแทนวัด แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้ทราบว่าได้มีการลดหย่อนโทษให้ด้วยการให้กลับมาทำงานได้ตามปกติ แต่ให้ย้ายสถานที่ไปประจำยังจุดอื่นแทน ในช่วงสายของวันเดียวกันนายเอกพันธ์ นายบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ ซึ่งได้นัดหมายประสานงานกับพันตรีประเสริฐ สายทองแท้ ผู้บังคับกองร้อยฝึกรบพิเศษสิชล ในการประสานงานเข้ามากราบมนัสการพระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์ เจ้าอาวาสวัดเจดีย์ โดยทั้งคู่ได้เดินทางมารอเจ้าอาวาสซึ่งติดกิจนิมนต์ในงานสารทเดือนสิบนครศรีธรรมราช รวมทั้งภารกิจในการรับถวายสิ่งของจากมูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ กว่า 3 ชั่วโมง ก่อนที่ทั้งคู่จะถูกเชิญไปพบกับพระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์ เจ้าอาวาสวัดบนกุฏิโดยการเข้าพบไม่เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนเข้ารับฟังการพูดคุยเจรจา รวมทั้งแจ้งว่ากระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์งดให้สัมภาษณ์ทุกกรณี ต่อมาหลังจากใช้เวลาในการพูดคุยเกือบ 40 นาที ได้เปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปบันทึกภาพวงพุดคุยซึ่งได้เสร็จสิ้นลงไปแล้ว โดยพระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์ ได้นำวัตถุมงคลและผ้ายันต์มอบให้กับ นายเอกพันธ์ นายบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ รวมทั้งคณะทุกคนเพื่อความเป็นสิริมงคล ต่อมานายบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการพูดคุยว่าได้กราบนมัสการขอโทษเจ้าอาวาส รวมทั้งได้ขอโทษเจ้าหน้าที่ทั้ง 16 คน ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและได้เข้าใจสถานการณ์แล้วว่ามีเหตุและหผลอย่างไรเหตุใดถึงมีข้อห้าม แต่จริงๆนั้นไม่ได้มีการห้ามไลฟ์สด แต่ห้ามไลฟ์สดโดยที่ถือวัตถุมงคลเข้าไปแสดงในไลฟ์สดนั้นนี่คือประเด็นสำคัญ ซึ่งทางผมได้ทราบเหตุแลแล้วเป็นอย่างดี ส่วนปัญหาของเจ้าหน้าที่ 16 คนขณะนี้ได้ขอโทษถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเข้าใจว่าเป็นน้ำใจของเจ้าหน้าที่ที่เห็นเป็นบิณฑ์และเอกพันธ์ ที่เข้าไปตรงนั้นจึงการต้อนรับเป็นอย่างดี ซึ่งในเรื่องนี้ทางเจ้าอาวาสได้ว่ากล่าวตักเตือนเจ้าหน้าที่แล้ว และได้ให้กลับมาทำงานในวัดตามปกติแต่ให้ไปทำหน้าที่อื่น ทำให้เบาใจถือว่าทุกอย่างจบลงด้วยดี