วันที่ 17 กันยายน 2563 เวลา 11.00 น. ที่ สภ.เมืองลำปาง นายอานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน ได้เดินทางมายัง สภ.เมืองลำปาง ตามหมายเรียกของ สภ.เมืองลำปาง ในข้อหา “ร่วมกันจัดให้มีการชุมนุม การทำกิจกรรม หรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัด หรือการกระทำดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย การชุมนุม การทำกิจกรรมหรือมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค หลังจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมือง #ลำปางรวมการเฉพาะกิจ รวมพลคนไม่ทนในลำปาง ที่จัดขึ้น ณ ข่วงนคร ห้าแยกหอนาฬิกา เทศบาลนครลำปาง เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เดิมทีนั้น นายอานนท์ จะมาพบพนักงานสอบสวน เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา พร้อมกับบุคคลในหมายเรียก รวม 4 คน ประกอบด้วย นายพินิจ ทองคำ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง ซึ่งเป็นแกนนำกลุ่มพิราบขาว เพื่อมวลชน โดยเป็นกลุ่มที่จัดกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมืองในพื้นที่ จ.ลำปาง , นายพริษฐ์ ชิวารัก หรือเพนกวิน แกนนำสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) , นายธนวัฒน์ วงไชย หรือบอล แกนนำกิจกรรมวิ่งไล่ลุง แต่ นายอานนท์ ถูกถอนประกัน และถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษ กรุงเทพมหานคร จึงไม่สามารถเดินทางมาพบในครั้งนั้นได้
กระทั่งได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2563 ดังนั้น นายอานนท์ จึงได้กำหนดเดินทางมายัง จ.ลำปาง เพื่อพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง ในครั้งนี้ โดยบรรยากาศที่หน้า สภ.เมืองลำปาง ก็มี นายพินิจ ทองคำ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง ซึ่งเป็นแกนนำกลุ่มพิราบขาว เพื่อมวลชน และกลุ่มมวลชนในพื้นที่ จ.ลำปาง มารอต้อนรับ นายอานนท์ ประมาณ 20 คน เพื่อมอบดอกกุหลาบสีแดง และให้กำลังใจ รวมถึงขอถ่ายภาพร่วมกัน ซึ่งกลุ่มมวลชน ก็มีการชูสามนิ้ว เพื่อแสดงสัญลักษณ์ในการออกมาเคลื่อนไหว โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในเครื่องแบบ และนอกเครื่องแบบ ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยอย่างใกล้ชิด
นายอานนท์ นำภา ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว หลังเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ว่า ในเรื่องนี้ ก็ว่ากันตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งก็จะต้องไปต่อสู้กันในชั้นศาล โดยที่ตนเองปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา สำหรับพื้นที่ต่อไปที่ตนเองจะเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหา เกี่ยวกับ พรก.ฉุกเฉิน คือ ที่ จ.พะเยา ส่วนคดีที่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับตนเองนั้น ขณะนี้ก็มีหลายแห่งเกือบทั่วประเทศ ตามที่ตนเองไปร่วมปราศรัย ซึ่งแน่นอน ว่า อนาคตก็จะมีอีก
“ในวันที่ 19 กันยายน 2563 นี้ ที่มีการนัดชุมนุมใหญ่ ที่กรุงเทพมหานคร ตนเองจะเข้าร่วมแน่นอน เพราะถือว่าเป็นงานใหญ่ จึงอยากให้ทุกคนไปร่วมชุมนุม เพื่อแสดงออก ว่า เราต้องการให้บ้านเมืองเป็นอย่างไร ซึ่งจำนวนคนที่เดินทางมาร่วมนั้น จะเป็นนัยยะะสำคัญ และเชื่อว่า ทหารจะไม่ออกมาเคลื่อนไหว ทำอย่างหนึ่งอย่างใด”
นายอานนท์ ยังเปิดเผยอีกว่า การชุมนุมใหญ่ที่จะมีขึ้น ก็จะมีการดูแล ประคับประคองการชุมนุมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนสิ่งที่เป็นข้อกังวล คือ ฝน หากฝนตกลงมา ก็อาจจะกระทบต่อการชุมนุมได้ อย่างไรก็ตาม การชุมนุมครั้งนี้ ที่มีการค้างคืน ถือว่าเป็นการคลิ๊กออฟ ชุมนุม เพราะต่อไปอาจจะมีการเปลี่ยนรูปแบบการชุมนุมไปเรื่อยๆ ตามสถานการณ์ ซึ่งคนรุ่นใหม่ก็พร้อมที่จะเข้าร่วมชุมนุมไปพร้อมกัน และการชุมนุมก็อยากให้จับตา เพราะจะมีอะไรใหม่ๆ ให้จับตา ทั้งการรูปแบบการชุมนุม การปราศรัย และการแสดง
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เดิมทีนั้น นายอานนท์ จะมาพบพนักงานสอบสวน เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา พร้อมกับบุคคลในหมายเรียก รวม 4 คน ประกอบด้วย นายพินิจ ทองคำ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง ซึ่งเป็นแกนนำกลุ่มพิราบขาว เพื่อมวลชน โดยเป็นกลุ่มที่จัดกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมืองในพื้นที่ จ.ลำปาง , นายพริษฐ์ ชิวารัก หรือเพนกวิน แกนนำสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) , นายธนวัฒน์ วงไชย หรือบอล แกนนำกิจกรรมวิ่งไล่ลุง แต่ นายอานนท์ ถูกถอนประกัน และถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษ กรุงเทพมหานคร จึงไม่สามารถเดินทางมาพบในครั้งนั้นได้
กระทั่งได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2563 ดังนั้น นายอานนท์ จึงได้กำหนดเดินทางมายัง จ.ลำปาง เพื่อพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง ในครั้งนี้ โดยบรรยากาศที่หน้า สภ.เมืองลำปาง ก็มี นายพินิจ ทองคำ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง ซึ่งเป็นแกนนำกลุ่มพิราบขาว เพื่อมวลชน และกลุ่มมวลชนในพื้นที่ จ.ลำปาง มารอต้อนรับ นายอานนท์ ประมาณ 20 คน เพื่อมอบดอกกุหลาบสีแดง และให้กำลังใจ รวมถึงขอถ่ายภาพร่วมกัน ซึ่งกลุ่มมวลชน ก็มีการชูสามนิ้ว เพื่อแสดงสัญลักษณ์ในการออกมาเคลื่อนไหว โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในเครื่องแบบ และนอกเครื่องแบบ ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยอย่างใกล้ชิด
นายอานนท์ นำภา ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว หลังเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ว่า ในเรื่องนี้ ก็ว่ากันตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งก็จะต้องไปต่อสู้กันในชั้นศาล โดยที่ตนเองปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา สำหรับพื้นที่ต่อไปที่ตนเองจะเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหา เกี่ยวกับ พรก.ฉุกเฉิน คือ ที่ จ.พะเยา ส่วนคดีที่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับตนเองนั้น ขณะนี้ก็มีหลายแห่งเกือบทั่วประเทศ ตามที่ตนเองไปร่วมปราศรัย ซึ่งแน่นอน ว่า อนาคตก็จะมีอีก
“ในวันที่ 19 กันยายน 2563 นี้ ที่มีการนัดชุมนุมใหญ่ ที่กรุงเทพมหานคร ตนเองจะเข้าร่วมแน่นอน เพราะถือว่าเป็นงานใหญ่ จึงอยากให้ทุกคนไปร่วมชุมนุม เพื่อแสดงออก ว่า เราต้องการให้บ้านเมืองเป็นอย่างไร ซึ่งจำนวนคนที่เดินทางมาร่วมนั้น จะเป็นนัยยะะสำคัญ และเชื่อว่า ทหารจะไม่ออกมาเคลื่อนไหว ทำอย่างหนึ่งอย่างใด”
นายอานนท์ ยังเปิดเผยอีกว่า การชุมนุมใหญ่ที่จะมีขึ้น ก็จะมีการดูแล ประคับประคองการชุมนุมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนสิ่งที่เป็นข้อกังวล คือ ฝน หากฝนตกลงมา ก็อาจจะกระทบต่อการชุมนุมได้ อย่างไรก็ตาม การชุมนุมครั้งนี้ ที่มีการค้างคืน ถือว่าเป็นการคลิ๊กออฟ ชุมนุม เพราะต่อไปอาจจะมีการเปลี่ยนรูปแบบการชุมนุมไปเรื่อยๆ ตามสถานการณ์ ซึ่งคนรุ่นใหม่ก็พร้อมที่จะเข้าร่วมชุมนุมไปพร้อมกัน และการชุมนุมก็อยากให้จับตา เพราะจะมีอะไรใหม่ๆ ให้จับตา ทั้งการรูปแบบการชุมนุม การปราศรัย และการแสดง