เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 16 กันยายน ที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา พ.ต.อ.อนิวรรตน์ สุรินทร์วงศ์ ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัด( กก.สส.ภ.จ.)นครราชสีมา พร้อม พ.ต.ท.พรเทพ ทุ้ยแป รอง ผกก.กก.สส.ภ.จ.นครราชสีมา พ.ต.ท.คำพู พลอยผักแว่น สารวัตร กก.สส.ภ.จ.นครราชสีมา และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมร่วมกันแถลงผลการตรวจยึดยาบ้าบรรจุในห่อกระดาษ 3 ห่อ จำนวน 14,000 เม็ด
พ.ต.ท.คำพู ฯ สารวัตร กก.สส.ภ.จ.นครราชสีมา เปิดเผยพฤติการณ์ของคดีว่า ได้รับแจ้งข้อมูลจากสายลับว่านายวราวุธหรือนิว ลำพูน ผู้ต้องหาตามหมายจับของสถานีตำรวจหนองบุญมาก จังหวัดนครราชสีมา มีพฤติกรรมลักลอบนำยาเสพติดมาจำหน่ายในพื้นที่รับผิดชอบ เจ้าหน้าที่จึงวางแผนอำพรางเป็นพ่อค้ายาเสพติด ออกอุบายติดต่อขอซื้อยาบ้าจากนายวราวุธ นิวฯ โดยสนทนาตกลงกันผ่านแอพพลิเคชั่นเมสเซนเจอร์ “เฟสบุ๊ก” จนกระทั่งนายวราวุธหรือนิวฯ เชื่อใจนัดหมายจำหน่ายยาบ้าให้ ต่อมาวันที่ 11 กันยายน นายวราวุธ หรือนิว ฯ ได้แจ้งให้โอนเงินมัดจำเข้าบัญชีของนางสาววรรณภา ฯ เข้าบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ โดยกำหนดส่งยาบ้ากันในเขตพื้นที่ตำบลไทยเจริญ อำเภอหนองบุญมาก จ.นครราชสีมา แต่ไม่ได้ตามกำหนดวันเวลา มีการบ่ายเบี่ยงหลอกล่อกันหลายครั้ง
จนกระทั่งเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ( เวลา 00.30 น. วันที่ 16 กย. ) ได้รับแจ้งจากนายวราวุธ หรือนิวฯ ยาบ้าให้ไปรอรับยาบ้า บริเวณป้ายหมู่บ้านซับตะคร้อ ตำบลไทยเจริญ อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา ฝั่งมุ่งหน้าเข้าอำเภอหนองกี่ มีสภาพแวดล้อมเป็นสถานที่เปลี่ยวลบตาคน เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังตรวจสอบพบห่อกระดาษห่อสีน้ำตาล ภายในพบยาเสพติดเป็นยาบ้าบรรจุภายในจำนวนมาก แต่ไม่พบเจ้าของยาบ้า หรือผู้เกี่ยวข้องอยู่ในที่เกิดเหตุบริเวณ จากการรายงานข้อมูลทางลับทราบว่านายวราวุธ หรือนิว ฯ เป็นชาวไทยที่หลบหนีไปอยู่ตามชายแดนประเทศเพื่อนบ้านคอยสั่งการให้เครือข่ายคอยตระเวนส่งยาบ้าให้ลูกค้าในเขตภาคอีสานตอนล่าง
อย่างไรก็ตามหากยาบ้าจำนวนนี้ไม่ถูกสกัดกั้น จะกลายเป็นภัยต่อสังคมเนื่องจากแพร่ระบาดในกลุ่มวัยรุ่น ผู้ใช้แรงงาน ในเขตรอยต่อ จ.นครราชสีมา และ จ.บุรีรัมย์ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่มีข้อมูลเบาะแสเส้นทางการเงิน และข้อมูลอื่นๆที่เป็นประโยชน์ต่อคดี ใช้ในการติดตามสืบสวนสอบสวนเพื่อกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติดให้สิ้นซาก โดยเฉพาะการลักลอบจำหน่ายผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งมีความสลับซับซ้อนกว่าการจำหน่ายยาเสพติดแบบอดีตที่ผ่านมา
พ.ต.ท.คำพู ฯ สารวัตร กก.สส.ภ.จ.นครราชสีมา เปิดเผยพฤติการณ์ของคดีว่า ได้รับแจ้งข้อมูลจากสายลับว่านายวราวุธหรือนิว ลำพูน ผู้ต้องหาตามหมายจับของสถานีตำรวจหนองบุญมาก จังหวัดนครราชสีมา มีพฤติกรรมลักลอบนำยาเสพติดมาจำหน่ายในพื้นที่รับผิดชอบ เจ้าหน้าที่จึงวางแผนอำพรางเป็นพ่อค้ายาเสพติด ออกอุบายติดต่อขอซื้อยาบ้าจากนายวราวุธ นิวฯ โดยสนทนาตกลงกันผ่านแอพพลิเคชั่นเมสเซนเจอร์ “เฟสบุ๊ก” จนกระทั่งนายวราวุธหรือนิวฯ เชื่อใจนัดหมายจำหน่ายยาบ้าให้ ต่อมาวันที่ 11 กันยายน นายวราวุธ หรือนิว ฯ ได้แจ้งให้โอนเงินมัดจำเข้าบัญชีของนางสาววรรณภา ฯ เข้าบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ โดยกำหนดส่งยาบ้ากันในเขตพื้นที่ตำบลไทยเจริญ อำเภอหนองบุญมาก จ.นครราชสีมา แต่ไม่ได้ตามกำหนดวันเวลา มีการบ่ายเบี่ยงหลอกล่อกันหลายครั้ง
จนกระทั่งเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ( เวลา 00.30 น. วันที่ 16 กย. ) ได้รับแจ้งจากนายวราวุธ หรือนิวฯ ยาบ้าให้ไปรอรับยาบ้า บริเวณป้ายหมู่บ้านซับตะคร้อ ตำบลไทยเจริญ อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา ฝั่งมุ่งหน้าเข้าอำเภอหนองกี่ มีสภาพแวดล้อมเป็นสถานที่เปลี่ยวลบตาคน เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังตรวจสอบพบห่อกระดาษห่อสีน้ำตาล ภายในพบยาเสพติดเป็นยาบ้าบรรจุภายในจำนวนมาก แต่ไม่พบเจ้าของยาบ้า หรือผู้เกี่ยวข้องอยู่ในที่เกิดเหตุบริเวณ จากการรายงานข้อมูลทางลับทราบว่านายวราวุธ หรือนิว ฯ เป็นชาวไทยที่หลบหนีไปอยู่ตามชายแดนประเทศเพื่อนบ้านคอยสั่งการให้เครือข่ายคอยตระเวนส่งยาบ้าให้ลูกค้าในเขตภาคอีสานตอนล่าง
อย่างไรก็ตามหากยาบ้าจำนวนนี้ไม่ถูกสกัดกั้น จะกลายเป็นภัยต่อสังคมเนื่องจากแพร่ระบาดในกลุ่มวัยรุ่น ผู้ใช้แรงงาน ในเขตรอยต่อ จ.นครราชสีมา และ จ.บุรีรัมย์ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่มีข้อมูลเบาะแสเส้นทางการเงิน และข้อมูลอื่นๆที่เป็นประโยชน์ต่อคดี ใช้ในการติดตามสืบสวนสอบสวนเพื่อกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติดให้สิ้นซาก โดยเฉพาะการลักลอบจำหน่ายผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งมีความสลับซับซ้อนกว่าการจำหน่ายยาเสพติดแบบอดีตที่ผ่านมา