เรือนจำจังหวัดพังงา มอบประกาศนียบัตรผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ผ่านการเข้าฝึกอบรมโครงการพระราชทาน “โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง” รุ่นที่ 1 วันที่ 15 กันยายน 63 นายบุญเติม เรณุมาศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา มอบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ได้รับอภัยโทษ ที่ได้ผ่านการเข้าร่วมฝึกอบรมโครงการพระราชทาน “โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง” รุ่นที่ 1 จำนวน 412 คน ซึ่งเป็นผู้ต้องราชทัณฑ์ชาวไทย 409 คน และผู้ต้องราชทัณฑ์ชาวต่างชาติ 3 คน พร้อมเป็นประธานในพิธีปิดโครงการพระราชทาน "โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง" รุ่นที่ 1 ณ เรือนจำจังหวัดพังงา อ.เมืองพังงา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยความเป็นอยู่พสกนิกรของพระองค์ทุกหมู่เหล่ารวมถึงผู้ต้องราชทัณฑ์ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานให้มีโครงการโคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวังขึ้น เพื่อมุ่งเน้นให้ผู้ต้องขังได้ปรับเปลี่ยนแนวความคิด ฝึกวินัย ฝึกการแก้ปัญหา ลงมือปฏิบัติ นำความรู้ความสามารถไปดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพการงานด้วยตนเองภายหลังพ้นโทษตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ได้ทรงพระราชทานไว้ นายไพฑูรย์ ม่วงไหมทอง ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดพังงา กล่าวว่า โครงการพระราชทาน "โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง" รุ่นที่ 1 เรือนจำจังหวัดพังงา ได้นำวิทยากรจิตอาสา 904 เข้าทำการฝึกอบรมในระหว่างวันที่ 1 ถึง 4 กันยายน 2563 เป็นการประยุกต์ทฤษฎีใหม่แบบชาวบ้าน และสร้างต้นแบบเกษตรทฤษฎีใหม่ในพื้นที่ขนาดเล็ก สามารถดำเนินการปั้นโคก ขุดหนอง ทำนา ปลูกต้นไม้ ปลูกผัก เลี้ยงกบเลี้ยงปลา ให้พอกินพออยู่ พอใช้ พอร่มเย็น โดยในระหว่างการดำเนินการจะมุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนทัศนคติ แนวความคิดฝึกวินัย ลงมือปฏิบัติ แก้ปัญหาจริง โดยได้แบ่งขั้นตอนการฝึก เป็น 3 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นที่ 1 การอบรมพึ่งตนเองด้วยทฤษฎีเกษตรพอเพียง ขั้นที่ 2 การแปลงทฤษฎีเกษตรพอเพียงสู่การปฏิบัติ ประกอบด้วย 1.การออกแบบแนวความคิดการบริหารจัดการพื้นที่ขนาดเล็ก การประยุกต์ทฤษฎีใหม่แบบชาวบ้าน ปั้นโคก ขุดหนอง ทำนา ตามภูมิสังคมลงบนกระดาน 2. การสร้างต้นแบบบนพื้นที่จำลอง และวางแผนการปลูกป่า 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่าง เพื่อพอกิน พออยู่ พอใช้ พอร่มเย็น 3.การปฏิบัติในพื้นที่จริง ตมทฤษฎีใหม่แบบชาวบ้าน และขั้นที่ 3 เป็นการสรุปและประเมินผล โดยผู้ต้องราชทัณฑ์ที่เข้ารับการฝึก จะได้รับความรู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ ทำให้เกิดการพัฒนาตนเอง พึ่งพาตนเองได้ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สามารถแลกเปลี่ยน ถ่ายทอด พัฒนาต่อยอดภูมิปัญญาและองค์ความรู้ให้แก่ผู้อื่น เป็นคนดีในสังคมได้อย่างยั่งยืนต่อไป