หลักทรัพย์บัวหลวง เผยปริมาณซื้อขาย Block Trade เดือนส.ค.63 เบาบาง หลังไวรัสโควิด-19 และสถานการณ์การเมืองภายในประเทศกดดันตลาดหุ้นไทยผันผวน พร้อมชูจุดเด่นเรื่องระบบซื้อขาย Block Trade สุดฮอต “e-BlockTrade” ที่ตอบโจทย์รวดเร็วมาพร้อมฟีเจอร์สใหม่ “Conditional order” ตัวช่วยสำคัญหนุนมาร์เก็ตแชร์แตะ 10.3% นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า ในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนปรับตัวลดลง 1.35% ปิดที่ระดับ 1,310.66 จุด จากความกังวลการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ดูจะยืดเยื้อ,สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯและจีน รวมถึง MSCI ปรับลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ของไทย ส่งผลปริมาณการซื้อขายรวมของธุรกรรม Block Trade ในเดือนที่ผ่านมาปรับตัวลดลง หลังนักลงทุนชะลอการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เพราะกำหนดทิศทางตลาดได้ยาก ทั้งนี้มีปริมาณการซื้อขายธุรกรรม Block Trade ฟิวเจอร์สอ้างอิงหุ้นรายตัวเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 1,687 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 4.60% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นอ้างอิงบนกระดานหลัก เทียบกับเดือนก.ค.ที่มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 2,004 ล้านบาท ขณะที่มีจำนวนสัญญา Block Trade คงค้าง ณ วันสุดท้ายของเดือนคงเหลือ 1,819,082 สัญญา จัดเป็น Single Stock Futures สูงถึง 1,277,511 สัญญา คิดเป็น 70.23% ของสัญญาอนุพันธ์คงค้างรวม และมีมูลค่าสถานะคงค้างเฉลี่ยรายวันคิดเป็น 14,849 ล้านบาท เพิ่มจากเดือนก่อนหน้า 778 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5.53% โดยในเดือนส.ค.ที่ผ่านมามีหุ้นอ้างอิงที่ทำธุรกรรม Block Trade ทั้งหมด 122 หุ้น ซึ่งหุ้นอ้างอิงที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ CPALL มีมูลค่าซื้อขายสูงถึง 6.26% แม้ราคาหุ้นจะไปในทิศทางที่สวนกับปริมาณการซื้อขาย แต่สถานะคงค้างก็ถูกเก็บเข้าเรื่อยๆ โดยมีมูลค่าสะสม ณ สิ้นเดือนส.ค.63 ที่ระดับ 728 ล้านบาท อันดับ 2 คือ MINT มีการซื้อขายสูงถึง 4.39% โดยนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไร หลังราคาปรับตัวลดลง เพราะได้รับผลกระทบโดยตรงจากไวรัสโควิด-19 ขณะที่บริษัทประกาศงบการเงินขาดทุนน้อยกว่าคาด และนักลงทุนคาดว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจจะเริ่มกลับมา เนื่องจากหลายประเทศเริ่มทยอยผ่อนคลายล็อกดาวน์ ส่วนอันดับ 3 คือ AOT มีการซื้อมาขายสูงถึง 4.13% หลังนักลงทุนมองว่า ราคาหุ้นผ่านจุดต่ำสุดจากช่วงแรกไปแล้ว ขณะที่หลายประเทศเริ่มมีการรับมือกับสถานการณ์ที่ดีขึ้น และนักลงทุนเชื่อว่า รัฐบาลอาจมีมาตรการเยียวยาออกมาช่วยเหลือประชาชน นายบรรณรงค์ กล่าวอีกว่า แม้ธุรกรรม Block Trade ในเดือนส.ค.จะไม่คึกคัก ตามตลาดหุ้นไทยที่ผันผวน แต่หลักทรัพย์บัวหลวงยังคงสามารถรักษาระดับส่วนแบ่งการตลาดไว้ได้ที่ระดับ 10.3% เมี่อเทียบกับช่วงต้นปี 63 ที่มีส่วนแบ่งการตลาดในระดับต่ำสุดที่ 7.2% เนื่องจากบริการ Block Trade ของหลักทรัพย์บัวหลวงมีจุดเด่นหลากหลายด้านตอบโจทย์นักเก็งกำไร Block Trade อย่างแท้จริง โดยเฉพาะเครื่องมือช่วยการลงทุน Block Trade ที่มีชื่อว่า “e-BlockTrade” ระบบส่งคำสั่งซื้อขาย Block Trade ที่มีความรวดเร็วมาพร้อมกับฟังก์ชันยอดฮิต “Conditional order” ที่สามารถกำหนดจุดเข้าและจุดออกได้ ซึ่งจุดเด่นดังกล่าวหนุนให้ส่วนแบ่งการตลาดธุรกรรม Block Trade ของบริษัทในช่วงไตรมาส 2 ปี 63 อยู่เฉลี่ย 11% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 63 ที่อยู่เฉลี่ย 9.03% ทั้งนี้หลักทรัพย์บัวหลวง ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาระบบและเครื่องมือช่วยการลงทุน เพื่อเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดให้กับ นักลงทุน ที่สำคัญยังมีการจัดอบรบให้ความรู้การลงทุน Block Trade อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้นักลงทุนมีความเข้าใจลักษณะและความเสี่ยงที่เกิดขึ้นของโปรดักส์