ยูเอ็มไอ กรุ๊ป เปิดเกมรุกบุกตลาดดิจิทัล มอบประสบการณ์ใหม่ให้แก่ลูกค้าในการชมและช้อปปิ้งกระเบื้องผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ด้วยเทคโนโลยี VR Exhibition (Virtual Reality Exhibition) จำลองพื้นที่โชว์นวัตกรรรมกระเบื้องเพื่อสุขภาพและความปลอดภัยรวมทั้งสินค้าแบบเสมือนจริง ตอบสนองไลฟ์สไตล์นักช้อปออนไลน์ และตอบรับวิถีใหม่หรือ New Normal คุณรติรัตน์ เหล่าวิวัฒน์วงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร บริษัท สหโมเสคอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือยูเอ็มไอ กรุ๊ป กลุ่มบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกระเบื้องชั้นนำของประเทศไทยภายใต้แบรนด์ดูราเกรสและเซอเกรสเปิดเผยว่า บริษัทในการปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ โดยการบุกทำการตลาดดิจิทัลด้วยการนำเทคโนโลยี VR Exhibition (Virtual Reality Exhibition) มาใช้นำทัพร่วมกับการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ในปัจจุบัน เพื่อรับมือกับสถานการณ์วิกฤติโควิด-19 ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาทางภาครัฐได้มีการประกาศใช้มาตรการต่างๆ เพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศ ทำให้เกิดผลกระทบกับผู้บริโภครวมทั้งบริษัทในส่วนหนึ่งและเพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภคที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและชัดเจน โดยนิยมซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆมากขึ้น พร้อมกันนี้ยังเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนธุรกิจต่อไปในยุคดิจิทัล ทั้งนี้บริษัทได้รุกทำการตลาดดิจิทัลเพื่อเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการจัดกิจกรรมทางการตลาดด้วยรูปแบบการนำเสนอนวัตกรรมและสินค้าแบบใหม่ โดยการใช้เทคโนโลยี VR Exhibition (Virtual Reality Exhibition) ผ่านทางหน้าเว็บไซต์ www.umi-tiles.com ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์จำลองพื้นที่จัดแสดงนวัตกรรมและสินค้าในสภาพแวดล้อมเสมือนจริง สามารถแสดงผลได้ทั้งบนจอคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน เพื่อมอบประสบการณ์เสมือนลูกค้าได้เข้าไปชมนวัตกรรมและสินค้าต่างๆที่จัดแสดงภายในบูธด้วยตนเอง พร้อมมอบความสะดวกสบายให้ลูกค้าสามารถดูรายละเอียดกระเบื้อง ดูรูปห้องตัวอย่างเพื่อสร้างไอเดีย ดาวน์โหลด E-catalog สอบถามหรือสั่งซื้อสินค้าได้ทันที เพียงแค่คลิกที่กระเบื้องที่ต้องการ ซึ่งเป็นรูปแบบการนำเสนอที่รวดเร็ว น่าสนใจ สะดวกสบาย เข้าถึงง่ายไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม และยังสอดคล้องกับวิถีใหม่หรือ New Normal โดยพื้นที่จัดแสดงนวัตกรรมและสินค้าที่ถูกจำลองขึ้นนี้นำเสนอภายใต้แนวคิด ”BALANCE” ซึ่งเป็นเทรนด์หลักของแบรนด์ดูราเกรสและเซอเกรสในปี 2020 โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากวิถีการใช้ชีวิตของคนในยุคปัจจุบันที่นิยมสร้างบาลานซ์ให้กับการใช้ชีวิตในด้านต่างๆมากขึ้นอาทิ การให้ความสำคัญกับการใช้เวลาร่วมกันระหว่างครอบครัวในบ้านหรือในที่พักอาศัย การเลือกใช้กระเบื้องที่ตอบโจทย์การใช้งานและสามารถสะท้อนตัวตนหรือเอกลักษณ์ของผู้ใช้ การเลือกใช้ลวดลายและสีสันที่มีความเรียบหรูแต่แฝงไว้ด้วยลูกเล่นที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายจากการใช้ชีวิตที่เร่งรีบในปัจจุบัน การมีพื้นที่ในการผ่อนคลายหรือออกกำลังกาย รวมทั้งการดูแลสุขภาพและความปลอดภัยของสมาชิกทุกคนในครอบครัว ถ่ายทอดผ่านดีไซน์กระเบื้อง 4 ซีรี่ส์ด้วยกันได้แก่ TINY TEXTURE,SMOOTH WOOD,SMART STONE และ NEO TERRACOTTA สำหรับVR Exhibition นี้จะประกอบไปด้วย MOCK UP ROOM หรือการจำลองห้องแบ่งออกเป็น 5 โซนได้แก่ 1.TREND & DESIGN ZONE โซนเทรนด์และดีไซน์กระเบื้อง 4 ซีรี่ส์ภายใต้แนวคิด ” BALANCE”ได้แก่ TINY TEXTURE ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและสบายตา แต่ยังคงความสนุกสนาน เหมาะกับพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว ตกแต่งด้วยกระเบื้องที่มีดีไซน์สะท้อนถึงความเรียบง่าย ด้วยลวดลาย พื้นผิวและผิวสัมผัสที่มีความเล็กและละเอียดเช่นลายผ้าต่างๆ SMART STONE กระเบื้องดีไซน์ลวดลายหินต่างๆอาทิ หินอ่อนและหินแกรนิต สะท้อนความหรูหราสง่างาม เพิ่มความมั่นใจและพลังงานในทุกๆวัน ให้ความรู้สึกเสมือนธรรมชาติทั้งลวดลายและผิวสัมผัสของกระเบื้อง ขณะที่SMOOTH WOOD ให้ความรู้สึกผ่อนคลายด้วยสัมผัสของธรรมชาติ เสมือนได้พักผ่อนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ตกแต่งด้วยกระเบื้องดีไซน์ลวดลายไม้ต่างๆที่มีสีสัน ลวดลาย และผิวสัมผัสเสมือนไม้ธรรมชาติ,NEO TERRACOTTA ให้ความรู้สึกเพลิดเพลินและกระตุ้นการสร้างจินตนาการด้วยการตกแต่งกระเบื้องดีไซน์ลวดลายดินเผาที่ถูกออกแบบให้มีความร่วมสมัยมากยิ่งขึ้นด้วยการเพิ่มลูกเล่นและความโดดเด่น โดยการผสมผสานลวดลายกราฟฟิกเข้ากับลวดลายดินเผา 2.INNOVATIVE TILES ZONE โซนนวัตกรรมที่ทางบริษัทพัฒนาขึ้นเพื่อทำให้กระเบื้องเป็นมากกว่าวัสดุก่อสร้างหรือวัสดุตกแต่งบ้านที่นอกจากจะให้ความสวยงามแล้วยังเสริมด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่ใส่ใจในด้านสุขภาพและความปลอดภัย ตอบรับวิถีการใช้ชีวิตแบบใหม่ New Normal ได้แก่ NEGATIVE ION TILES กระเบื้องเพื่ออากาศที่ดีขึ้น ผลิตโดยใช้นวัตกรรมการพัฒนาผิวเคลือบที่สามารถปล่อยประจุไอออนลบออกมาทำปฏิกิริยาจับฝุ่นละอองในอากาศ ทำให้อากาศบริสุทธิ์ขึ้น และประจุไอออนลบนี้ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพในอีกหลายด้านอาทิ ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและช่วยกำจัดสิ่งปนเปื้อนในอากาศ ช่วยให้รู้สึกสดชื่นเหมือนได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้ หอบหืด ภาวะซึมเศร้า เมื่อยล้า ปวดหัว ช่วยผ่อนคลายความเครียด ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของอวัยวะภายในร่างกาย และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานขอ คอลลาเจนในร่างกาย สำหรับ ANTI–BACTERIA TILES กระเบื้องเพื่อสุขภาพที่ใช้เทคโนโลยีในการผลิตที่ทันสมัย ผ่านการค้นคว้าและทดสอบทางวิทยาศาสตร์โดยได้รับการรับรองจากศูนย์ทดสอบที่ได้มาตรฐานสากล ทำให้ได้กระเบื้องที่มีผลต่อการยับยั้งเชื้อแบคทีเรียได้มากกว่า 99% ได้แก่ ชนิด Staphylococcus Aureus ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการคลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง ท้องร่วง หรือโรคอาหารเป็นพิษแบบเฉียบพลัน และ Escherichia Coli หรือ E.Coli ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการไข้สูง ท้องเสียรุนแรง โรคอุจจาระร่วง โรคติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ และโรคติดเชื้ออื่นๆ ขณะที่ANTI SLIP TILES กระเบื้องที่ช่วยลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุจากการลื่นล้มด้วยการเคลือบสารที่ทำให้กระเบื้องเกิดความเสียดทานมากขึ้นเมื่อโดนน้ำ ผ่านการทดสอบและรับรองด้วยมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล รองรับการใช้งานทั้งภายในและภายนอกบ้าน โดยแนะนำการเลือกใช้งานกระเบื้องที่มีค่าตั้งแต่ R10–R13 3.IMPORTED TILES ZONE โซนกระเบื้องนำเข้าระดับสากล คัดสรรทั้งคุณภาพดี ดีไซน์สวย หลากหลายผิวหน้า โดดเด่นด้วยกระเบื้องขนาดใหญ่ที่ช่วยเพิ่มความหรูหราสง่างามให้กับพื้นที่ 4.VINYL & LAMINATE ZONE โซนกระเบื้องไวนิลและลามิเนตลายไม้จากแบรนด์น้องใหม่ DÉCOR TECH อีกหนึ่งทางเลือกที่จะทำให้บ้านสวยโดยไม่ทำลายธรรมชาติ 5.RELAX ZONE โซนจุดพักผ่อนซึ่งตกแต่งที่นั่งสวยงามด้วยกระเบื้องดีไซน์ต่างๆ และพื้นปูหญ้าเทียมเพื่อสร้างบรรยากาศแบบธรรมชาติและให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลาย นอกจากนั้น ปัจจุบันบริษัทยังมีการจำหน่ายสินค้าและบริการผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆอีก 3 ช่องทางด้วยกันได้แก่ เว็บไซต์ www.umipro.com,Line Official Account หรือ Line@UMItiles และfacebook/Duragres Tiles ซึ่งลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าได้ตลอด 24 ขั่วโมง มีบริการจัดส่งสินค้าถึงบ้านฟรีภายใน 3-7 วัน เมื่อสั่งซื้อสินค้าครบ 3,000 บาทขึ้นไป รวมทั้งยังมีการจัดโปรโมชั่นมากมายเพื่อเอาใจนักช้อปออนไลน์ “บริษัทเชื่อมั่นว่าการรุกตลาดดิจิทัลด้วยการใช้เทคโนโลยี VR Exhibition (Virtual Reality Exhibition) บนแพลตฟอร์มออนไลน์จะเป็นหนึ่งในกลยุทธ์และแนวทางการตลาดที่จะสอดรับกับเทรนด์หรือพฤติกรรมของผู้บริโภคในแบบวิถีใหม่หรือ New Normal เนื่องจากเป็นช่องทางที่ทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าของบริษัทได้ตลอดเวลา ง่ายและสะดวกสบายไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม สนใจสามารถเข้าชม VR Exhibition ได้ทาง www.umi-tiles.com