นายธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยในงานเสวนาร่วมกับ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญเรื่อง “การปรับโครงสร้างการกระจายสลาก รวมถึงการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา” ว่า สำหรับข้อเสนอของกลุ่มสหภาพฯและเครือข่ายองค์กรคนพิการที่ได้เสนอเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลมีราคาในท้องตลาดสูงเกินราคาค่อนข้างมาก จนส่งผลต่อผู้ซื้อและผู้ขายปลีกได้รับความเดือดร้อนนั้น ทางสำนักงานสลากฯได้รับฟังข้อเสนอข้อมูลข่าวสารทั้งหมด และจะนำเสนอให้คณะกรรมการพิจารณาอย่างเร่งด่วนในวันที่ 23 ก.ย.63 ทั้งนี้ปัญหาสลากเกินราคา ทางสำนักงานสลากฯได้เห็นสัญญาณนี้มาเป็นระยะเวลา 2-3 เดือน โดยเกิดขึ้นหลังจากที่เปิดจำหน่ายในช่วงเดือนพ.ค.63 เนื่องจากพบว่ามีผู้ขายหน้าใหม่เข้ามาในระบบเยอะขึ้นกว่า 1 แสนคนเป็นบุคคลที่ไม่มีงานทำ หรือผู้ที่อยากมีอาชีพพิเศษเข้ามาขายมากขึ้น เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 จึงทำให้ผู้ขายสลากเพิ่มขึ้นและมีความต้องการสลากนำไปขายต่อประชาชนสูงขึ้น ขณะเดียวกันยังพบว่าคนเริ่มไปซื้อสลากที่ไปรษณีย์ เมื่อเห็นสลากมีราคาสูง ดังนั้นคนขายจริงจึงเปลี่ยนสภาพเป็นคนขายช่วงแทน เพื่อหวังกำไรเฉพาะหน้า และนำเงินกำไรไปซื้อรอบสองที่ตลาดขายส่งยิ่งทำให้สลากมีราคาที่สูงขึ้น โดยเบื้องต้นจะมีการพิจารณาการเปิดลงทะเบียนของผู้ขายสลากใหม่ทั้งระบบ ทั้งในส่วนระบบโคว้ต้าและระบบทั่วไป เนื่องจากมีการลงทะเบียนมาตั้งแต่ปี 2557 โดย คณะกรรมการบริหารจัดการสลากจะมีการสรุปอีกครั้งก่อนเสนอบอร์ดพิจารณาต่อไป ส่วนประเด็นเรื่องการขอให้เพิ่มการจัดพิมพ์สลากเพิ่มมองว่า ความต้องการขายน่าจะเกิน 100 ล้านฉบับจริง แต่ความต้องการซื้อไม่ได้เพิ่มเกิน 100 ล้านฉบับ ดังนั้นจึงเห็นว่าจะยังไม่มีการเพิ่มการพิมพ์สลากเกินจากปัจจุบัน เพราะไม่มีเหตุที่จะเพิ่มได้ โดยข้อเสนอนี้จะนำไปพิจารณาอีกครั้งว่ายังจำเป็นต้องพิมพ์สลากเพิ่มเติมเข้ามาในระบบอีกหรือไม่