เกาะลันตา ถือเป็นเกาะสวยงามในทะเลอันดามันในเขตจังหวัดกระบี่ นอกจากเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองไทยแล้ว อีกไม่นานหากมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางด้านคมนาคมอย่างครบถ้วน จะทำให้เกาะแห่งนี้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ครบวงจร ช่วยกระตุ้นภาคเศรษฐกิจ กระจายความเจริญไปสู่พื้นที่ต่างๆ อย่างครอบคลุม และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนเพราะสามารถเดินทางได้สะดวกขึ้น    หลังจากก่อนหน้านี้ ชาวเกาะลันตา ต้องประสบปัญหาในการเดินทางข้ามไปยังแผ่นดินใหญ่ หรือลงเกาะลันตา เพราะต้องใช้แพขนานยนต์ ทำให้รถติดครั้งละ 3 -4 ชั่วโมง หรือในบางโอกาสอาจใช้เวลา 5-6 ชั่วโมง สร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก  จึงมีการเรียกร้องให้มีการสร้างสะพานเชื่อมให้แก่คนเกาะลันตาเกิดขึ้น นอกจากตอบโจทย์การเดินทางแล้ว หากกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่นชาวบ้านเจ็บป่วยหนักอาจมีโอกาสเสียชีวิต จะได้สามารถเดินไปโรงพยาบาลในแผ่นดินใหญ่ได้ทันท่วงที  ที่สำคัญยังลดรายจ่ายในการเดินทางนอกเวลาทำการ ซึ่งต้องเหมาแพขนานยนต์ในราคาสูงมาก  ด้วยเหตุนี้เมื่อวันที่ 5 กันยายน ที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  ในฐานะที่กำกับกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการศึกษาความเหมาะสมผลกระทบสิ่งแวดล้อมในขั้นรายละเอียด (EIA) เส้นทางเชื่อมเกาะลันตา ตำบลเกาะกลาง-ตำบลเกาะลันตาน้อย และโครงการก่อสร้างถนนสายบ้านศาลาด่าน-บ้านสังกะอู้ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่  ในโอกาสเดินทางมาประชุมพรรคภูมิใจไทยสัญจรในพื้นที่ภาคใต้  ประจำปี 2563  ระหว่างวันที่ 4-7 กันยายน  2563     นายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท กล่าวว่า เกาะลันตาเป็นเกาะที่มีศักยภาพในการพัฒนาการท่องเที่ยว ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ทำให้มีปริมาณการจราจรหนาแน่น ประกอบกับการเดินทางไปยังเกาะลันตา ต้องใช้แพขนานยนต์ข้ามฟาก ส่งผลให้มีความล่าช้าในการเดินทาง ซึ่งบางครั้งต้องใช้ระยะเวลานาน 1-2 ชั่วโมง เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยวให้สามารถประหยัดเวลาได้มากขึ้น ทช.จึงได้ดำเนินโครงการที่จะสามารถยกระดับคุณภาพชีวิต ส่งเสริมเศรษฐกิจ และรองรับการเจริญเติบโตของพื้นที่ในอนาคต จำนวน 2 โครงการ ดังนี้  ข้อ1 โครงการศึกษาความเหมาะสมผลกระทบสิ่งแวดล้อมในชั้นรายละเอียด (EIA) เส้นทางเชื่อมเกาะลันตา ตำบลเกาะกลาง-ตำบลเกาะลันตาน้อย อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ซึ่งจะศึกษาในด้านการออกแบบด้านวิศวกรรม การวิเคราะห์ผลตอบแทนด้านเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม โดยทำการศึกษาแนวเส้นทางที่เหมาะสม จำนวน 3 แนวทาง  ซึ่งได้ผลสรุปการคัดเลือกแนวเส้นทาง คือ แนวทางเลือกที่ 3 เนื่องจากมีความเหมาะสมมากที่สุด ทั้งด้านวิศวกรรม การลงทุนและสิ่งแวดล้อม โดยมีความยาวสะพานทั้งสิ้น 1,920 เมตร ซึ่งการจัดประชุมการมีส่วนร่วมภาคประชาชนครั้งที่ 1 เมื่อเดือนสิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา ประชาชนในพื้นที่เห็นด้วยกับการพัฒนาโครงการดังกล่าว ซึ่งเมื่อทำการศึกษาความเหมาะสมและจัดทำรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมแล้วเสร็จ จะเสนอให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจารณาต่อไป  ข้อ2โครงการก่อสร้างถนนสายบ้านศาลาด่าน-บ้านสังกาอู้ อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ โดยมีจุดเริ่มต้นสายทางบนเกาะลันตาใหญ่ บริเวณสามแยกที่เชื่อมต่อกับสะพานสิริลันตา (กม.ที่ 0+000) และไปสิ้นสุดสายทางที่โรงเรียนบ้านสังกาอู้ (กม.ที่ 20+498) พร้อมทางเชื่อม (บริเวณ กม.ที่ 10+668) ระยะทาง 1.200 กิโลเมตร รวมระยะทางประมาณ 21.698 กิโลเมตร โดยก่อสร้างเป็นถนนผิวจราจรคอนกรีต ขนาด 2 ช่องจราจร กว้าง 6 เมตร ไหล่ทางข้างละ 0-2 เมตร พร้อมจุดจอดรถบริการนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ ยังมีการก่อสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก 4 แห่ง งานไฟฟ้าแสงสว่าง งานเครื่องหมายจราจร และงานอำนวยความปลอดภัย  เมื่อโครงการแล้วเสร็จจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการพัฒนาพื้นที่ และกระจายความเจริญสู่ท้องถิ่นและภูมิภาค สนับสนุนและอำนวยความสะดวกด้านพาณิชยกรรม อุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน และมาตรฐานทางหลวงชนบท เพื่อเชื่อมต่อเติมโครงข่ายการคมนาคมขนส่ง แก้ไขปัญหาการจราจรด้วยการสร้างทางเชื่อมให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และช่วยบรรเทาการจราจรของถนนทางหลวง แก้ไขปัญหาการจราจรที่ล่าช้าบริเวณทางเชื่อมเกาะ ระหว่างตำบลเกาะกลาง และตำบลเกาะลันตาน้อย จังหวัดกระบี่ ซึ่งคาดว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2565 แล้วเสร็จปี 2567  ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวยืนยันว่า สะพานข้ามเกาะลันตาจะต้องเกิดอย่างแน่นอน เพื่อรองรับความเจริญเติบโต ทางด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว  พร้อมบรรเทาปริมาณการจราจรของถนนทางหลวงและแก้ไขปัญหาการจราจรที่ล่าช้า  ระหว่างแผ่นดินใหญ่กับเกาะลันตา รวมทั้งยังยกระดับความปลอดภัยให้แก่ประชาชนในระดับสากลเพิ่มขึ้น อีกด้วย