นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.เขตคลองเตย และวัฒนา กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธาน คณะอนุกรรมาธิการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการดำเนินงานของ องค์กรอิสระ องค์การ มหาชน และกองทุน กล่าวว่า มีการพิจารณาศึกษา เรื่องการกำหนดราคาขายปลีกก๊าซธรรมชาติ NGV ของบริษั ท ปตท. จำกัด (มหาชน) โดยเชิญหลายหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง เข้ามาชี้แจงและปรึกษา หาแนวทางเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน เนื่องจากการใช้ก๊าซ ธรรมชาติ NGV มีผลแปรผันโดยตรงกับต้นทุนของผู้ประกอบการ และการขับเคลื่อน ธุรกิจ ภายในประเทศ ยิ่งไปกว่านั้น จากการศึกษา พบว่า ก๊าซ ธรรมชาติ NGV มีส่วนช่วยสิ่งแวดล้อม ลดมลภาวะ PM 2.5 ดังนั้นจึงมีความพยายามในการปรึกษา เพื่อหาแนวทางในการตรึงราคาขายปลีกก๊าซธรรมชาติ NGV ให้ผู้ประกอบการ ขนส่งและผู้ใช้ก๊าซ ธรรมชาติ NGV ใช้พลังงานทางเลือกชนิดนี้ต่อไป สำหรับ ข้อมูลจากกรมธุรกิจพลังงาน เผยตัวเลขการใช้ NGV ในรอบ 7 เดือนของปี 2563 (มกราคม-กกรกฎาคม) ระบุว่า การใช้ NGV เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 3.8 ล้านกิโลกรัม/วัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 31.7% เนื่องจากภาครัฐมีนโยบายการปรับราคาขายปลีก NGV สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลทั่วไปเพื่อสะท้อนต้นทุน จึงทำให้ราคา NGV ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคหันไปใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์หรือน้ำมันดีเซลหมุนเร็วแทน ทั้งนี้ นางกรณิศ กล่าวต่อว่า จากราคาที่ปรับสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ NGV มีแนวโน้มที่จะหันไปใช้เชื้อเพลิงชนิดอื่นซึ่งอาจจะปล่อยมลภาวะมากกว่า ขณะที่ปตท. ผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติ NGV ได้ให้เหตุผลว่า ประสบกับภาวะการขาดทุนจากการดำเนินธุรกิจ NGV มาโดยตลอดทุกปีตั้งแต่ปี 2549 ทั้งๆ ที่ธุรกิจของ ปตท. มีหลากหลาย ทั้งธุรกิจน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติและอื่นๆ ที่มีกำไรเป็นแสนล้านบาทต่อปี อีกทั้ง ปตท. ยังเป็นบริษัทรัฐวิสาหกิจ ซึ่งการขาดทุนในส่วนของธุรกิจ NGV ถือเป็นส่วนน้อย แต่สามารถช่วยประชาชนได้มาก ดังนั้นจึงอยากให้พิจารณาในส่วนนี้เพื่อลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการ และค่าใช้จ่ายของประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ และจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนในประเทศ