เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การบริหารงานของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ร่วมกับ สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จัดงานแถลงข่าว "สานพลังบอลไทย ไปเลสเตอร์ ซิตี้" เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมศักยภาพนักเตะไทย โดยมี 3 นักเตะดาวรุ่ง นำโดย "เช็ค" สุภโชค สารชาติ, "อาร์ม" ศุภชัย ใจเด็ด และ "แบงค์" ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ไปทดสอบฝีเท้าช่วงปิดฤดูกาล 2020 พร้อมเปิดตัวเสื้อแข่งบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คอลเล็กชั่นพิเศษ รุ่น THAILAND SMILES WITH YOU ที่เกิดจากความร่วมมือของ 2 สโมสร นำโดย คุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ และคุณเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ร่วมแถลงข่าวความร่วมมือ นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ เผยว่า เรามีความเชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทย และความตั้งใจแรกของเราที่เข้าบริหารสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ คือเราจะสนับสนุนความสามารถของนักเตะไทย โดยเลสเตอร์ ซิตี้ ได้ให้ความสำคัญกับบุคลากร และการพัฒนาศักยภาพของนักเตะ รวมถึงด้านสิ่งอำนวยความสะดวกที่จะมาพัฒนาทักษะ ซึ่งเรามองว่า สิ่งเหล่านี้เป็นการลงทุนด้านฟุตบอลระยะยาว ปัจจุบันเรามีศูนย์ฝึกซ้อมแห่งใหม่ที่ทันสมัยที่สุดในยุโรป และมีศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาที่ดีที่สุด เพื่อให้นักเตะทุกคนสามารถฟื้นฟูร่างกายได้ในทุกช่วงเวลา การที่ 3 นักเตะดาวรุ่ง ได้ไปทดสอบฝีเท้าที่เลสเตอร์ ซิตี้ นับว่าเป็นโอกาสที่นักเตะจะได้โชว์ฝีเท้า และความสามารถของตัวเองในระดับยุโรป ถ้าผลการทดสอบออกมาตามเกณฑ์ จะสนับสนุนให้ได้เล่นต่อกับสโมสรในยุโรป อาทิ สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ และสโมสรฟุตบอลโอเอช ลูเวิน ประเทศเบลเยี่ยม ในอนาคต ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความสามารถของทั้ง 3 คน ซึ่งถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีหากการทดสอบไม่ประสบความสำเร็จ อย่างน้อยก็มีรายชื่ออยู่ในฐานระบบ Scouting ของยุโรป ที่ผ่านมาเลสเตอร์ ซิตี้ เราเล็งเห็นถึงศักยภาพของคนไทยในด้านกีฬามาโดยตลอด โครงการต่างๆ ที่เลสเตอร์ และคิง เพาเวอร์ ทำมาเพื่อตอบโจทย์ว่าเราอยากเห็นคนไทยไปเล่นในสโมสรในยุโรป ด้าน นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กล่าวว่า เป้าหมายหลักในครั้งนี้อยากเห็นนักฟุตบอลไทยได้มีโอกาสเล่นในลีกระดับท็อปของโลก ตลอดระยะเวลาที่ทำฟุตบอลมา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เราสร้างโอกาส และส่งเสริมในการส่งนักเตะไทยไปทดสอบฝีเท้า หรือ เซ็นสัญญา กับทีม ในลีกที่ดีกว่าเสมอ และถ้าจุดหมายปลายทางนั้นเป็นยุโรป โดยเฉพาะถ้าเป็น เลสเตอร์ ซิตี้ เราจะผลักดันอย่างเต็มที่ และเราอยากให้คนทั้งโลกได้เห็น ตัวอย่างความมุ่งมั่นและพยายาม ที่พร้อมทุ่มเทแบบสุดตัวของคนไทย ผมมั่นใจว่าเด็กของบุรีรัมย์ จะสามารถเป็นแบบอย่างที่ดี ให้กับเด็กรุ่นต่อไป ที่กำลังเดินตามเส้นทางของฟุตบอลอาชีพได้ การพัฒนาวงการฟุตบอลไทย จะต้องก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง การลงมือทำต่อจากนี้ ต้องสามารถจับต้องได้ เห็นเป็นรูปธรรม ที่สำคัญต้องได้มาตรฐาน ในระดับสากล จึงเกิดเป็นความร่วมมือที่จะส่ง 3 นักเตะของสโมสร ที่มีฝีเท้าโดดเด่น เพื่อเข้าทดสอบฝีเท้ากับสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ในครั้งนี้ นอกจากนี้ภายใต้การร่วมมือของทั้ง 2 สโมสร ยังถือเป็นการต่อยอดแคมเปญ “THAILAND SMILES WITH YOU” เพื่อส่งต่อพลังรอยยิ้มของคนไทยในประเทศ ด้วยการจัดทำเสื้อแข่งคอลเล็กชั่นพิเศษ มีจำหน่ายเพียง 30,000 ตัว ราคาตัวละ 890 บาท โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจะนำมาผลิตลูกฟุตบอลจำนวน 20,000 ลูก เพื่อกระจายให้กับกลุ่มโรงเรียน ชุมชน หรือทีมเยาวชนฟุตบอลต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้นำเอาฟุตบอลไปพัฒนาศักยภาพของเด็กๆ ต่อไป ซึ่งสามารถติดต่อได้ทางเพจ Leicester City FC Thailand และเพจสโมสร BURIRAM UNITED สำหรับเสื้อคอลเล็กชั่นพิเศษนี้ ได้ถูกออกแบบโดยการนำสัญลักษณ์ของทั้ง 2 สโมสรมารวมกัน เป็นตัวย่อ LCFC ที่มีสายฟ้าซึ่งนับเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อยู่ตรงกลางตัวย่อของชื่อสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ บนชายเสื้อด้านหลัง ส่วนลายผ้าด้านหน้าเป็นการเล่น สีโดยใช้ ลายสายฟ้าสลับแถบสีของทั้ง 2 สโมสร ส่วนด้านหลังเป็นการร้อยเรียงลาย แผนที่ประเทศไทย ที่ถูกจัดเรียงให้สวยงามสื่อถึงความร่วมมือในการผลักดันบอลไทย ก้าวไกลสู่เลสเตอร์ ซิตี้ ยิ่งไปกว่านั้น เสื้อตัวนี้ได้ถูกผลิตขึ้นภายใต้แนวความคิดรักโลก และร่วมรักษาสิ่งแวดล้อม โดยการใช้ผ้าที่ผลิตจากขวดพลาสติกรีไซเคิล เสื้อแต่ละตัวสามารถลดขยะจากขวดพลาสติกไปได้ ทั้งสิ้น 14 ขวด โดยจะมีสัญลักษณ์บอกจำนวนขวดที่รีไซเคิลอยู่ที่ชายเสื้อมุมขวา อีกด้วย โดยจะเปิดให้ทำการสั่งจอง Pre-order ได้ตั้งแต่วันที่ 09/09/2563 ที่เว็บไซต์ https://www.buriram.shop/#/ Buriram United Shop สยามสแควร์ Buriram United Mega Store ช้างอารีนา และ ร้านค้าที่เป็น Authorized จาก Buriram United และwww.buriram.shop ราคา 890 บาท ขณะที่ สุภโชค สารชาติ กล่าวว่า เราทั้ง 3 คน พร้อมที่จะไปทดสอบฝีเท้าในครั้งนี้ โอกาสครั้งนี้เป็นโอกาสที่ผู้ใหญ่มอบให้ พวกเราจะตั้งใจอย่างเต็มที่ ทำผลงานให้ออกมาดีที่สุด ส่วนเรื่องของอายุ ผมว่าการเล่นฟุตบอลไม่เกี่ยวครับ หากเราพร้อม ใจเราสู้ อายุก็ไม่ใช่ปัญหาในการเล่นฟุตบอลทุกระดับ ศุภชัย ใจเด็ด กล่าวว่า การไปที่ประเทศอังกฤษ เราจะตั้งใจเก็บเกี่ยวประสบการณ์กลับมาให้ได้มากที่สุด มันเป็นโอกาสที่ดี ผมเชื่อว่าทุกคนที่ได้โอกาส จะทำทุกอย่างเต็มที่เมื่อไปอยู่ที่อังกฤษ ซึ่งผมว่ามันจะเป็นการเรียนรู้ที่มีค่า เพื่อนำมาพัฒนาตัวเอง และพัฒนาทีมชาติไทยได้ในอนาคต ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา กล่าวว่า การไปอังกฤษ คุณเนวิน บอกพวกเราเสมอว่า ไปที่นั่นต้องพัฒนาตัวเองตลอดเวลา นอกจากเราจะต้องแข่งกับคนอื่น เราต้องแข่งกับตัวเองด้วย วันนี้ถือเป็นวันที่พิเศษที่นักเตะเลสเตอร์ ซิตี้ และโค้ช ได้ส่งคลิปมากล่าวต้อนรับพวกเรา 3 คน ก็ดีใจครับ ผมจะทำให้เต็มที่