วาง 3 มาตรการป้องกัน พน้อมจัดทีมสวอป 300 คน ตรวจโควิดคนฝั่งเมียนมาที่ลักลอบเข้าไทย 9 ก.ย.2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายธนิตพล ไชยนันท์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จากเมียนมาเข้ามาประเทศไทย ว่า เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจในแนวทางป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในพื้นที่แนวชายแดนไทยเมียนมา กระทรวงสาธารณสุขได้มีการยกระดับมาตรการป้องกัน 3 มาตรการ คือ 1.ยกระดับมาตรการจากเดิมที่มีการระบาดเฝ้าระวังการนำเชื้อเข้าประเทศทางอากาศ มาเป็นการเฝ้าระวังเข้มข้นทางบก และแนวชายแดนที่อาจมีการลักลอบเดินเท้าเข้ามายังฝั้งประเทศไทย พร้อมทั้งสนับสนุนเวชภัณฑ์ อุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อ ไปยังโรงพยาบาลบริเวณชายแดนเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะถึงภายในวันนี้ 2.สนับสนุนทั้งด้านวิชาการและเวชภัณฑ์ อุปกรณ์ต่างๆ ไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด และสำนักงานสาธารณสุขอำเภอในพื้นที่ติดชายแดน คาดว่าจะลงไปถึงพื้นในเร็ววันนี้ และเสริมมาตรการการป้องกันร่วมกับภาคีเครือข่ายภายในที่ทั้งระดับจังหวัด อำเภอ ตำบลหมู่บ้าน ในการตรวจสอบคนเข้ามายังพื้นที่ รวมทั้งฟื้นฟูอาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้านน(อสม.) อาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว (อสต.) ในประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อช่วยกันสนับสนุนตรวจสอบเฝ้าระวัง และ 3. จัดชุดเคลื่อนที่เร็วจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือพบผู้ติดเชื้อที่ข้ามมาจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยชุดเคลื่อนที่เร็วจะมีอุปกรณ์ป้องกันบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถในการช่วยเหลือภาคีเครือข่ายในพื้นที่ให้ได้รับความปลอดภัยรวมถึงประชาชนได้รับความปลอดภัยเช่นเดียวกัน อย่่างไรก็ตามขอย้ำและให้ความมั่นใจกับประชาชน ว่ามาตรการต่างๆที่กระทรวงสาธารณสุขออกมีความพร้อม โดยขอความร่วมมือประชาชนทั้งภาครัฐและเอกชนปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขทั้งการรักษาระยะห่าง การหยุดอยู่บ้านและออกจากบ้านเมื่อจำเป็นเท่านั้น เมื่อออกมาจะต้องสวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัย ซึ่งถือเป็นเรื่องจำเป็นที่จะช่วยลดการแพร่ระบาดของโรคได้ และร่วมกันเป็นหูเป็นตาเพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมือง หากพบการลักลอบเข้ามาขอให้แจ้งต่อหน่วยงานราชการได้ทราบเพื่อดำเนินการต่อไป ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือฝ่ายความมั่นคงเพื่อหามาตรการเพิ่มโทษคนนำเข้าแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ด้านนพ.เอนก มุ่งอ้อมกลาง ผู้อำนวยการสถาบันควบคุมโรคเขตเมือง กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ได้ร่วมกับพื้นที่แม่สอดในการนำรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทาน 5 คันออกตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก( Active case finding) ที่อ.แม่สอด จ.ตาก ระหว่างวันที่ 8-9 ก.ย.2563 รวมทั้งสิ้น 2,635 คน แบ่งเป็นคนไทย 1,641 คน และต่างด้าว 994 คน ซึ่งคาดว่าจะทราบผลใน 24-48 ชั่วโมง และจะทำให้ประเมินได้ว่าสถานการณ์แม่สอดมีการระบาดหรือการติดเชื้อโควิดหรือไม่อย่างไร นอกจากนี้มีการจัดทีมสวอป 300 คน เป็นพยาบาลและนักวิชาการสาธารณสุข ในการประจำอยู่ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.)ในพื้นที่ตลอดตะเข็บชายแดนจ.ตากที่ตัดกับประเทศเมียนมา เพื่อเก็บตัวอย่างสิ่งส่งตรวจหาเชื้อโรคโควิด-19 จากผู้ที่ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายผ่านช่องทางธรรมชาติ หากมีการตรวจจับได้ซึ่งจะดำเนินการให้ได้มากที่สุดคนที่ถูกเก็บตัวอย่างก็จะมีการกักกันตัวไว้ ซึ่งอยู่ในสถานที่กักกันในท้องถิ่น(Local Quarantine) จำนวน 265 รายและยังอยู่ระหว่างกักตัว 18 ราย