สืบเนื่องจากการที่ ทูตนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ใช้พื้นที่เฟซบุ๊กส่วนตัวชี้แจงข้อกล่าวหาที่ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ผู้ต้องในคดีอาญามาตรา 112 แล้วหลบหนีคดีไปอาศัยในต่างประเทศ และทางกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ ใช้คลิปแสดงบนเวทีชุมนุมก้าวล่วงสถาบันเบื้องสูง เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่ผ่านมา ออกมาบิดเบือนใส่ร้ายในหลายปมประเด็น รวมถึงการกล่าวหาเรื่องคอร์รัปชั่น ต่อมาพบว่ามีข้อความเม้นต์ของ นายสุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล อดีตนักร้องดูโอ้ "เบิร์ดกะฮาร์ท" ในการเข้าวิพากษ์วิจารณ์ ในลักษณะบิดเบือน กล่าวหาเพิ่มเติม โดยข้อความส่วนหนึ่งระบุทำนองว่า เป็นทูตหางแถวนั้นเป็นทูตติ่ม ปรากฎอยู่ในโพสต์ของนายปวิน ส่งผลให้ ทูตนริศโรจน์ ตัดสินใจดำเนินการตามข้อกฎหมายกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง ในการหมิ่นประมาทให้เกิดการดูถูกเกลียดชัง และกลางเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา ทูตนริศโรจน์ เดินทางเข้าความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ ให้ดำเนินคดีกับผู้ที่หมิ่นประมาท ทั้ง 9 คน ที่เม้นท์ในเพจ ของปวิน ในความผิดเรื่องการแสดงความคิดเห็นในลักษณะดูหมิ่นด้วยการโฆษณาหรือหมิ่นประมาท ด้วยการโฆษณา ทำให้ได้รับความเสียหาย ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง โดยมีผู้เข้าไปแสดงความเห็นสนับสนุน ให้ดำเนินการต่อผู้กระทำผิดทั้งหมดอย่างถึงที่สุด ล่าสุดเมื่อเวลา 13.30 น.ของวันนี้ที่ 8 กันยายน 2563 นายสุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล หรือ ฮาร์ท ได้เดินทางมาที่โรงพัก สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ พร้อมกระเช้าดอกไม้ เพื่อเข้าเจราจรและขอโทษนายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา กรณี กล่าวหาว่าเป็นทูตติ่ม โดยทั้งสองฝ่ายได้มีการเจรจาและพูดคุยกันอยู่นานกว่ากว่า 1 ชั่วโมง ก่อนที่นายสุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล หรือ ฮาร์ท ได้มอบกระเช้าดอกไม้ให้นายนริศโรจน์ พร้อมยกมือไหว้ กล่าวขอโทษนายนริศโรจน์ ต่อหน้าสื่อมวลชน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้นายสุทธิพงศ์ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ต้องขอบคุณท่านนริศโรจน์ เป็นอย่างสูง ที่ให้ความเมตา และกล่าวขอบคุณทุกฝ่าย รวมทั้งสื่อมวลชน และทนายของนายริศน์โรจน์ ส่วนทางด้านนายนริศน์ กล่าวว่า หลังตนและนายสุทธิพงศ์ได้มีการพูดคุยและปรับความเข้าใจกันแล้ว ตนเองก็ไม่ได้ถือกล่าวโทษอะไร เรื่องที่ผ่านมาก็ถือว่าจบ ตนเองก็ไม่อยากจะย้อนกลับไปพูดอะไรถือเพราะเรื่องมันยาวและถือว่าเข้าใจกันแล้ว โดยยืนยันว่าตนยินยอมที่จะถอนแจ้งความ จากนั้นทั้งคู่ยังได้จับมือกัน และถ่ายรูป ก่อนที่ นายนริศโรจน์ จะเข้าพบกับพนักงานสอบสวนเพื่อถอนแจ้งความ