“นักเรียนหนองคาย เข้าค่าย English Camp” อบจ.หนองคาย ร่วมกับ สพม.เขต 21 และ สมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาจังหวัดหนองคาย จัดโครงการอบรมพัฒนาความรู้ทางวิชาการ กิจกรรมค่ายภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในสังคมสำหรับเยาวชน วันที่ 8 ก.ย.63 เวลา 10.00 น. ที่หอประชุมโรงเรียนท่าบ่อ อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย นายยุทธนา ศรีตะบุตร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมโครงการอบรมพัฒนาความรู้ทางวิชาการ “กิจกรรมค่ายภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในสังคมสำหรับเยาวชนโรงเรียนท่าบ่อ” นายสุริยา มะโยธี ผู้อำนวยการโรงเรียนโพธิ์ตากพิทยาคม/นายกสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า "โครงการอบรมพัฒนาความรู้ทางวิชาการ กิจกรรมค่ายภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในสังคม สำหรับเยาวชนโรงเรียนท่าบ่อ" (English Camp 2020) เป็นความร่วมมือระหว่าง อบจ.หนองคาย, สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 21 และสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาจังหวัดหนองคาย ได้กำหนดจัดโครงการอบรมพัฒนาความรู้ทางวิชาการ “กิจกรรมค่ายภาษาอังกฤษ” ระหว่างวันที่ 8 -9 กันยายน 2563 โดยมีนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 ในจังหวัดหนองคาย เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 300 คน, คณะผู้บริหาร ครูวิทยากร ครูผู้สอนภาษาอังกฤษชาวไทยและชาวต่างชาติ จำนวน 21 โรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 21 จำนวน 100 คน รวมผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งสิ้น 400 คน ทั้งนี้ เพื่อให้นักเรียนได้รับความรู้และทักษะในการสื่อสารภาษาอังกฤษกับชาวต่างชาติ พร้อมนำความรู้และทักษะที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวันทั้งการเรียนรู้และการสื่อสารได้ ด้าน นายยุทธนา ศรีตะบุตร นายก อบจ.หนองคาย กล่าวว่า อบจ.หนองคาย ได้นำงบประมาณ 1 ใน 3 มาสนับสนุนและพัฒนาการศึกษาของจังหวัดหนองคาย ตามนโยบายที่ว่า “การศึกษาสร้างคน คนสร้างชาติ” ซึ่งได้สนับสนุนใน 5 ส่วนที่สำคัญประกอบด้วย การสนับสนุนด้านกีฬา โดยมีความเชื่อว่าเด็กจังหวัดหนองคายสามารถพัฒนาตัวเองเป็นนักกีฬาทีมชาติได้ แต่ยังขาดการส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งกีฬาจะเป็นการส่งเสริมให้บุคคลมีสุขภาพดี ประการที่สองก็คือ การยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา หรือส่งเสริมให้นักเรียนได้ศึกษาในมหาวิทยาลัยชั้นนำ โดยได้ตั้งงบประมาณปีละ 5,700,000 บาท เพื่อเสริมประสิทธิภาพนักเรียนในการสอบแข่งขัน ประการที่สาม คือการเปิดโลกทัศน์กว้างให้กับนักเรียน ด้วยการส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนรู้นอกห้องเรียน หรือไปศึกษาดูงานยังต่างจังหวัดที่มีความพร้อมในแต่ละเรื่อง ซึ่งนักเรียนที่จะได้รับโอกาสดังกล่าว จะต้องเป็นนักเรียนที่ เรียนดี มีวินัย และมีจิตอาสา ประการที่สี่ สนับสนุนโครงการศิลปหัตถกรรมนักเรียน หรือการแข่งขันทางด้านวิชาการแล้วนำมาปฏิบัติ เพื่อสะท้อนผลการเรียน และประการสุดท้ายก็คือ สนับสนุนให้มีการจัดการเรียนรู้เฉพาะด้าน เช่นการเข้าแคมป์ของนักเรียน ซึ่งนักเรียนจะได้รับความรู้จากสิ่งที่ตนเองสนใจและถนัด เพื่อเสริมสร้างความรู้ในระดับสูงขึ้น พร้อมทั้งนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ทั้งการเรียน การประกอบอาชีพ และอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข