เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 63 กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม ออกเอกสารข่าวชี้แจงกรณีอดีตครู จ.นครศรีธรรมราช วัย 77 ปี ยังต้องตรากตรำปลูกผักหาเงินจ่ายหนี้ กยศ.แทนลูกศิษย์ หลังโดนบังคับคดีขายทอดตลาดบ้านชำระหนี้ 1.7 แสน เพราะไปเซ็นค้ำประกันด้วยความหวังดี แต่ลูกศิษย์จบ ม.6 แล้วไปเรียนรามฯขอกู้ต่อ หลั่งน้ำตาร้องสื่อวอนศิษย์ช่วยจ่ายหนี้บ้างนั้น ว่า กรมบังคับคดีได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่เป็นข่าวแล้ว ปรากฏว่ากรณีดังกล่าวเป็นคดีแพ่งของศาลจังหวัดทุ่งสง คดีหมายเลขแดงที่ 2096/2551 ซึ่งมีจำเลยในคดีจำนวน 3 คน โดยนางวันดี จินา เป็นจำเลยที่ 2 ศาลได้พิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความ โดยจำเลยทั้งสามยินยอมร่วมกันหรือแทนกันชำระเงินให้แก่โจทก์จำนวน 95,651.91 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 1 ต่อปีของต้นเงิน 84,490 บาท โดยมีกำหนดชำระเป็นรายเดือนทุกวันที่ 5 ของเดือนๆละไม่น้อยกว่า 1,100 บาท และชำระให้เสร็จสิ้นภายใน 9 ปี หากผิดนัดให้คิดดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ต่อมาเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2561 กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา โจทก์ได้ร้องขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง มีชื่อนางวันดี จินา จำเลยที่ 2 เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ เพื่อขายทอดตลาดชำระหนี้ให้แก่โจทก์ ทางกรมบังคับคดีได้เข้าช่วยเหลือกรณีดังกล่าว โดยเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2561 เจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดีจังหวัดนครศรีธรรมราช สาขาทุ่งสง ได้ทำการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทได้สำเร็จ โจทก์แถลงต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีขอให้งดการบังคับคดีไว้ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 11 ธันวาคม 2563 และขณะนี้โจทก์ยังไม่ได้มาแถลงให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทำการขายทอดตลาดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลยที่ 2 แต่อย่างใด ทั้งนี้ แม้ในปัจจุบันคดีดังกล่าวจะอยู่ในระหว่างการงดการบังคับคดีตามคำขอของโจทก์ แต่หากจำเลยผิดนัดไม่ได้ชำระหนี้ตามที่ได้ตกลงไกล่เกลี่ยข้อพิพาทกันไว้ โจทก์สามารถที่จะมาแถลงขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีนำที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลยที่ 2 ที่ยึดไว้ออกขายทอดตลาดได้ กรมบังคับคดีจึงได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดีจังหวัดนครศรีธรรมราช สาขาทุ่งสง ลงพื้นที่เพื่อติดตามในเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะได้นัดหมายคู่ความทุกฝ่ายเพื่อมาพูดคุยและเจรจาเพื่อหาทางออกร่วมกันต่อไปในวันที่ 10 กันยายน 2563