เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 7 ก.ย. 63 พ.ต.ต.วศิน ธโนภาสรัตน์ สว.(สอบสวน) สน.บางกอกน้อย รับแจ้งเหตุชายคลุ้มคลั่งใช้มีดจี้โชเฟอร์แท็กซี่ จนรถชนกันเกิดความชุลมุนวุ่นวายบริเวณหน้าปั๊ม LPG สยามแก็ส ถนนจรัญสนิทวงศ์ ปากซอย 18 แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจ ตำรวจฝ่ายสืบสวน และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุพบรถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีชมพู ทะเบียน ทษ 5366 กรุงเทพมหานคร ของสหกรณ์แท็กซี่ไทยจำกัด จอดอยู่ในสภาพตัวถังรถด้านหน้าพังยับเยิน เนื่องจากเฉี่ยวชนรถชาวบ้านได้รับความเสียหายหลายคัน โดยมี นายมนัสวิน เนตรทอง อายุ 33 ปี โชเฟอร์ยืนรอให้การกับตำรวจด้วยอาการตื่นตระหนก นอกจากนี้ข้างๆ รถยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เป็นชายนิรนาม อายุประมาณ 25-30 ปี มีอาการคลุ้มคลั่งและมีกลิ่นสุรา สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นลายดอกสีขาวดำ ท่อนล่างเปลือยเปล่า นอนอยู่บนพื้นถนนในมือถือมีดปลายแหลมยาว 1 ฟุต 1 เล่ม และเหล็กแทงกระสอบขนาดไล่เลี่ยกันอีก 1 ด้าม โดยเจ้าตัวนั้นใช้มีดแทงลำคอตัวเองและแทงเข้าที่ราวนมซ้าย รวมทั้งสิ้น 2 แผล ฝ่ายสืบสวนจึงควบคุมตัวไว้ก่อนให้กู้ภัยนำส่งห้องฉุกเฉิน รพ.ศิริราช อย่างเร่งด่วน จากการสอบสวน นายมนัสวิน โชเฟอร์แท็กซี่ ให้การว่า ตนขับรถตระเวนรับผู้โดยสารมาจากทางแยกไฟฉายมุ่งหน้าไปแยกท่าพระ กระทั่งผ่านมาถึงจุดเกิดเหตุเห็นคนร้าย วิ่งข้ามถนนมาจากซอยจรัญสนิทวงศ์ 23 ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามในสภาพท่อนล่างเปลือยเปล่ามือถือมีดและเหล็กแหลม รวม 2 ชิ้น พยายามวิ่งไล่เปิดประตูขึ้นรถชาวบ้าน และรถแท็กซี่ด้านหน้ารถตนอยู่หลายคันแต่ขึ้นไม่ได้ จังหวะนั้นตนพยายามกดล็อคประตูรถตัวเองแล้วแต่ไม่ทันทำให้คนร้ายกระโดดขึ้นห้องโดยสารด้านหลัง และใช้มีดปลายแหลมมาจ่อที่คอสั่งให้ตนขับรถไปข้างหน้าโดยไม่บอกจุดหมาย นายมนัสวิน กล่าวอีกว่า ตอนนั้นตนตกใจมากจึงกระทืบคันเร่งอย่างแรงขับส่ายไปมาจนเกิดเฉี่ยวชนกับรถคู่กรณีทั้งรถเก๋ง และ รถ จยย.อีก 3-4 คัน กระทั่งรถไปหยุดที่หน้าปั๊มแก็ส LPG ไม่สามารถไปต่อได้ตนจึงรีบเปิดประตูวิ่งลงจากรถ ขณะที่คนร้ายเกิดความคลุ้มคลั่งใช้มีดแทงคอหอยตัวเองและตามร่างกายได้รับบาดเจ็บต่อหน้าประชาชนที่มาช่วยกันล้อมรถ จากนั้นเจ้าหน้าที่สายตรวจและฝ่ายสืบสวนก็มาช่วยกันคุมตัวคนร้ายยึดอาวุธของกลางและนำร่างขึ้นรถกู้ภัยไปส่งที่ รพ.ศิริราช ด้วยความทุลักทุเล "ระหว่างที่รถตนชนรถชาวบ้านจนหยุดนิ่งไม่สามารถไปต่อได้นั้น คนร้ายได้ใช้อาวุธมีดกระหน่ำแทงที่ศีรษะและช่วงต้นคอหลังด้านขวาตนอยู่หลายครั้งทั้งที่ไม่เคยมีเรื่องโกรธแค้นกันมาก่อน แต่โชคดีที่คมมีดไม่สามารถทำอันตรายตนได้ ส่วนตัวตนเชื่อว่าน่าจะเพราะแหวนเหล็กไหลที่ปู่มอบให้ใส่ตั้งแต่เด็กกับรอยสักรูปปู่ฤาษีและอักขระยันต์ 5 แถว ที่ต้นแขนทั้ง 2 ข้าง ตนเคยไปสักมาตอนเป็นวัยรุ่นเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้วกับพระอาจารย์รูปหนึ่งในวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ โดยตนจำชื่อพระอาจารย์ไม่ได้ เพราะตอนนั้นไปกับเพื่อนๆ และทำการสักกับลูกศิษย์ที่เป็นฆราวาส ก่อนที่พระอาจารย์จะเสกคาถากำกับให้อีกครั้ง" นายมนัสวิน กล่าว ต่อมาเมื่อเวลา 21.40 น.ได้มีผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถเก๋ง รถกระป๊อสาธารณะ รถ จยย.และรถแท็กซี่ รวม 4 คัน เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนเพิ่มเติมเนื่องจากรถถูกเฉี่ยวชนได้รับความเสียหายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ขณะที่ มี นายโต (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) อายุ 30 ปี เดินทางเข้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ก่อเหตุกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนทำให้สามารถทำเรื่องอายัดตัวผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้ขณะกำลังพักรักษาตัวที่ห้องไอซียู รพ.ศิริราช จากการสอบถาม นายโต เล่าว่า ผู้ก่อเหตุเป็นอดีตเพื่อนร่วมงาน ชื่อ นายคัยมก หรือม็อบ วัณณสุโภประสิทธิ์ อายุ 25 ปี อดีตเคยทำงานขับรถส่งของอยู่ที่บริษัทขนส่งสินค้าเอกชนแห่งหนึ่งกับตน แต่โดนไล่ออกเมื่อเกือบ 2 เดือนที่แล้ว เพราะเจ้าตัวมีอาการแปลกๆ ชอบพูดจาเพ้อเจ้อประกอบกับมีอารมณ์แปรปรวนหัวร้อนใส่คนรอบข้าง ซึ่งตนและเพื่อนๆ ก็ไม่ทราบว่า นายคัยมก ป่วยหรือเป็นอะไร กระทั่งวันนี้เจ้าตัวคงดื่มสุราเพราะความเครียดที่กำลังตกงานจึงวิ่งออกจากห้องพักมาลงมือก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งทางพนักงานสอบสวนแจ้งว่า จะเร่งสอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมดและติดตามญาติของ นายคัยมก มาสอบสวนหาสาเหตุที่ทำให้คลุ้มคลั่งก่อนแจ้งข้อหาในส่วนที่เกี่ยวข้องกับอดีตเพื่อนร่วมงานตนต่อไป.