เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 6 ก.ย.63 ร.ต.ท.ธวัช จันทร์เทพ รอง สว.(สอบสวน) สน.บางโพงพาง ได้รับแจ้งจาก รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ ว่า มีผู้ตกจากที่สูงที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ย่านพระราม 3 ถนนสาธุประดิษฐ์ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม.และส่งเข้ามารักษาแต่เสียชีวิตแล้ว ขอให้มาสอบสวนด้วย จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวชฯ รพ.จุฬาลงกรณ์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่บริเวณด้านข้าง รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ พบรถกระบะติดแครี่บอยยี่ห้อนาวาร่า รุ่นเอ็กซ์อี สีขาว ทะเบียน ฒถ 844 กรุงเทพมหานคร หน้ารถติดสติ้กเกอร์คำว่า รถดับเพลิง และที่ประตูติดโกโล้ข้างรถ CPN Property Development&Investment ที่กระบะท้ายรถบรรทุกศพนายธนินท์รัฐ ภัทร์อมรานนท์ อายุ 34 ปี ใส่เสื้อยืดสีดำ นุ่งกางเกงยีนขาสั้น ไม่สวมรองเท้า สภาพศีรษะซีกขวาแตกจนเกิดแผลฉีกขาดขนาดใหญ่ กระดูกตามร่างกายหักหลายแห่ง ถูกห่อด้วยผ้าร่มสีน้ำเงิน และนอนอยู่บนบอร์ดพยาบาล ที่มีป้ายไวนิลปูรองพื้น ในตัวมีทรัพย์สินติดตัวเพียงกระเป๋าสะพายข้างสีดำ 1 ใบ รองเท้าแตะสีดำ 1 คู่ บุหรี่ 1 ซอง แพทย์ระบุสาเหตุการตายเกิดจากการตกจากที่สูงและคาดว่าเสียชีวิตที่จุดเกิดเหตุ ร.ต.ท.ธวัช กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุพบว่า บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นถนนด้านหลังติดกับลานจอดรถของห้าง มีร่องรอยการถูกทำความสะอาดไปแล้ว และจากการขึ้นไปตรวจสอบบริเวณลานจอดรถชั้น 5 ที่คาดว่าเป็นจุดที่กระโดดลงมา พบมีก้นบุหรี่ตกที่พื้น 3 ม้วน และเป็นแนวเดียวกับจุดที่ตกลงไป นอกจากนี้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้ว ยังไม่สามารถระบุเวลาเข้าออกได้ และมาด้วยพาหนะอะไร ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ทั้งนี้จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ห้างฯที่ผู้ขนย้ายมาส่งโรงพยาบาลอ้างว่า หลังเกิดเหตุคิดว่ายังมีชีวิตอยู่ จึงรีบนำร่างขึ้นบอร์ดปฐมพยาบาล และรีบส่งให้ถึงมือแพทย์โดยเร็วที่สุด หลังจากนี้เบื้องต้นได้มอบศพส่ง รพ.จุฬาฯ เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป ต่อมานายสุชัย สัมมาคุณ อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นพ่อผู้ตายเดินทางมาดูศพและพบพนักงานสอบสวน สน.บางโพงพาง พร้อมเปิดเผยว่า บุตรชายเพิ่งลาออกจากงานเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา โดยมีตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัทเกี่ยวกับสำนักงานกฎหมาย สืบคดี ทำวีซ่า และเวิร์คเพอร์มิท ส่วนสาเหตุนั้นคาดว่าเครียดเรื่องส่วนตัวและเรื่องงาน นายสุชัย กล่าวต่ออีกว่า เมื่อตนมาเห็นสภาพศพลูกที่กะโหลกแตก สมองไหล ใครเห็นก็รู้ว่าเสียชีวิตจุดเกิดเหตุ แต่ทำไมเจ้าหน้าที่ของห้างฯ มาใช้กฎหมายข้อไหนทำการยกร่างมาส่งโรงพยาบาล ทั้งที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐหรือผู้ที่มีความรู้ด้านการแพทย์ ซึ่งถ้าห้างฯชี้แจงพร้อมหากฎหมายรองรับได้ตนก็เข้าใจ แต่ถ้าไม่มีกฎหมายรองรับตรงนี้ตนก็จะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด เพราะเป็นการทำลายหลักฐานที่เกิดเหตุที่ยังไม่มีการพิสูจน์ทราบที่แท้จริงว่าโดดลงมาเองหรือถูกฆาตกรรม