สถานการณ์ภัยแล้งส่งผลนาข้าวกว่า 5 พันไร่ ของ ต.วังสำโรง อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร จ่อนาแล้งข้าวยืนต้นตาย สส.สุรชาติ จับมือผู้นำท้องถิ่นและพี่น้องชาวนา ผนึกกำลังขนเครื่องสูบน้ำระดมสูบน้ำจากแม่น้ำน่านส่งต่อถึง 3 ช่วง รวมระยะทางเกือบ 20 กม. ส่งน้ำช่วยนาข้าวหวังรอดได้เก็บเกี่ยว ร้องขอวอนทำฝนหลวง วันที่ 5 ก.ย.63 นายสุรชาติ ศรีบุศกร “สส.ไก่” สส.พปชร.พิจิตร เขต 3 พร้อมด้วย นายมานะ อินทโชติ นายก อบต.วังสำโรง และ นายสุเนตร สิงห์สง่า ปลัด อบต.วังสำโรง ได้ร่วมกันลงพื้นที่เนื่องจากมีเกษตรกรร้องทุกข์ ว่า นาข้าวในเขตหมู่ที่ 1 บ้านทุ่งตับเต่า และ หมู่ที่ 6 บ้านหนองกอไผ่ ต.วังสำโรง อ.บางมูลนาก นาข้าวเกือบ 5 พันไร่ ที่ปลูกข้าวหอมมะลิ 105 โดยได้ลงมือปลูกข้าวในช่วงวันแม่ 12 สิงหา ที่ผ่านมา ต้นข้าวอายุประมาณ 40-45 วัน ซึ่งเป็นช่วงที่ต้องการน้ำเพื่อการเจริญเติบโตและตั้งท้องออกรวง แต่ต้องมาเจอวิกฤตฝนทิ้งช่วงจึงทำให้เกิดภัยแล้งนาข้าวส่อเค้าว่าจะยืนต้นแห้งตาย นายสุรชาติ พร้อมด้วยผู้นำชุมชนและเกษตรกรจึงได้มอบเงินส่วนตัวจำนวนหนึ่ง พร้อทั้งหาวิธีในการช่วยกันสูบน้ำจากแม่น้ำน่าน ซึ่งอยู่ห่างจากพื้นที่ดังกล่าวเกือบ 20 กม. โดยได้ระดมเครื่องสูบน้ำของชาวนาและขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมาช่วยกันสูบน้ำ ซึ่งก็เป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากระยะทางไกลต้องสูบน้ำใส่แหล่งน้ำเป็นช่วงๆ ถึง 3 ช่วง เพื่อจะส่งน้ำให้ถึงแปลงนาดังกล่าว ทำมาแล้วกว่า 10 วัน ชาวบ้านทอดผ้าป่าเรี่ยไรลงขันค่าน้ำมันเชื้อเพลิงในการสูบน้ำจนแทบหมดเนื้อหมดตัวแล้ว จึงต้องมาร้องขอให้ผู้แทนราษฎร หรือ สส. ในพื้นที่และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นช่วยเหลือ โดย นายมานะ นายกอบต.วังสำโรง ได้ดำเนินการตั้งงบประมาณจากงบกลาง โดยนำเงินเหลือจ่ายจากโครงการต่างๆ จำนวน 2 แสนบาท มาใช้เพื่อเป็นการช่วยแก้ปัญหาภัยแล้งให้กับชาวนาในพื้นที่ดังกล่าวนี้ นอกจากนี้ก็ยังพบว่านาข้าวที่หมู่ 1 และ หมู่ 2 ของ ต.วังสำโรง อ.บางมูลนาก นาข้าวเกือบ 3 พันไร่ ก็ส่อเค้าว่าจะยืนต้นแห้งตายหากไม่ได้น้ำหรือได้น้ำฝนภายในช่วง 7-10 วันนี้ ดังนั้นชาวนาในแถบนี้จึงตั้งความหวังอยากได้ฝนเทียมหรือฝนหลวงเพื่อมาช่วยนาข้าวดังกล่าวต่อไป