เมื่อวันที่ 4 ก.ย. นายสุชน ชาลีเครือ อดีตประธานวุฒิสภา (ส.ว.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 8 ก.ย. เวลา 14.00 น. จะจัดเวทีระดมความคิด “ทางออกวิกฤตการเมืองไทย ”ครั้งที่ 2 ที่ห้องบิสสิเนส โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัล ลาดพร้าว เพื่อระดมความคิดครั้งใหญ่ที่มีอดีตประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ทั้งสองสภาจากการเลือกตั้ง เข้าร่วมประชุม อาทิ นายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานรัฐสภา และประธานสภาฯ 3 นายวันมูหะมัด นอร์ มะทา อดีตประธานรัฐสภา และประธานสภาฯ นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานส.วและนายวิวรรธนไชย ณ กาฬสินธุ์ อดีต ส.ส.กาฬสินธุ์ เลขาธิการสมาพันธ์อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นต้น      นายสุชน กล่าวว่า การระดมความคิดครั้งนี้จะเป็นการหาทางออกของผู้มีประสบประการณ์จริง ในฐานะประมุขฝ่ายนิติบัญญัติและเคยดำรงตำแหน่งสำคัญของบ้านเมืองเป็นรัฐมนตรีหลายกระทรวง  ผ่านมาหลายยุคหลายรัฐบาล ได้รู้ได้เห็นความเป็นไปของประเทศไทย มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาแต่ละยุคแต่ละสมัยจนประเทศไทยรอดมาได้ทุกวันนี้ ตั้งแต่ยุคสงครามเย็น ยุคคอมมิวนิสต์รวมถึงการต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทหาร สถานการณ์ปัจจุบันนี้ถือว่าปัญหารุนแรงมาก ได้ขยายเพดานและมีเงื่อนไข การประท้วงลามไปอย่างน้อย 60 จังหวัดทั่วประเทศ จึงจำเป็นต้องระดมหาทางออกให้ประเทศอย่างเร่งด่วน นายสุชน กล่าวว่า ในการจัดเวทีระดมความคิด “ทางออกวิกฤตการเมืองไทย ”ครั้งที่ 1 ซึ่งมีอดีต ส.ส.และ ส.ว.รวมทั้งนักวิชาการอิสระร่วมหารือนั้น ที่ประชุมมีความเห็นร่วมกันว่า การแก้รัฐธรรมนูญปี 2560 ควรเริ่มต้นแก้ที่มาตรา 272 ก่อนคือ เรื่องอำนาจ ส.ว.ที่ต้องไม่ให้มีอำนาจโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี แต่ให้ทำหน้าที่ด้านนิติบัญญัติเพียงอย่างเดียว ไม่ใช่การปิดสวิตช์ ส.ว. จากนั้นค่อยไปแก้ไขมาตรา256 ให้ตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มายกร่างรัฐธรรมใหม่ โดยให้เลือก ส.ส.ร.ให้เสร็จภายใน 60 วัน และกำหนดให้ ส.ส.ร.มายก ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ให้เสร็จใน 90 วัน