บ.อสังหาริมทรัพย์ชื่อดังยอมเจรจาข้อขัดแย้งกับชาวบ้านชะอำแต่ยังไม่ให้คำตอบชัด “วีระ สมความคิด”เตรียมลงพื้นที่-ถ่ายทอดสดทั่วประเทศ
เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2563 นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต่อต้านการคอร์รัปชั่น เปิดเผยว่าในวันที่ 4 กันยายน ตนจะเดินทางลงพื้นที่คลองตากบ หมู่บ้านบ่อไร่ ตำบลหนองศาลา อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ภายหลังจากได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าป่าชายเลนในคลองตากบซึ่งชาวบ้านใช้เป็นแหล่งหาปลาและจอดเรือถูกบุกรุกทำลาย โดยตนจะฟังข้อเท็จจริงจากชาวบ้านพร้อมทั้งตรวจสอบด้วยว่ามีข้าราชการการที่เกี่ยวข้องรู้เห็นเป็นใจกับนายทุนหรือไม่ ทั้งนี้จะมีการถ่ายทอดสดผ่านเพจของตนให้สังคมได้รับทราบไปพร้อมๆกัน
“ผมจะไม่ชี้นำใดๆ แต่จะให้ชาวบ้านช่วยกันเล่าถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ผมอยากนำเสนอข้อเท็จจริงให้สังคมได้รับทราบว่าเกิดอะไรที่นี่ หากมีการฟ้องร้องตามมาก็ไม่เป็นไรเพราะเป็นข้อเท็จจริง แถมเป็นการดีด้วยเพราะจะได้นำเรื่องสู่กระบวนการยุติธรรม”นายวีระ กล่าว
นายเสนาะ สุขจำเริญ อดีตผู้ใหญ่บ้านบ่อไร่ กล่าวว่า เมื่อเร็วนี้ พล.อ.สุรินทร์ พิกุลทอง อดีตประธานอนุกรรมการแก้ปัญหาการบุกรุกที่ดินรัฐ สำนักนายกรัฐมนตรี ได้พาตัวแทน 2 คนของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดิน 4 หมื่นไร่ซึ่งมีปัญหากับชาวบ้านมาพบ โดยตนเสนอไปว่าให้เขาช่วยถมดินกลบคลองตากบให้เหมือนเดิมเพราะมีเสาหลักเขตเดิมอยู่แล้ว หรือไม่ก็กันแนวเขตที่ถมใหม่ทำเป็นถนนเลียบคลองลงทะเล
“เขาอยากให้เอาป้ายที่ชาวบ้านเขียนสาปแช่งคนที่บุกรุกป่าชายเลนและที่ดินสาธารณะซึ่งติดไว้ริมคลองออก แต่พวกเราบอกว่าจะเอาลงให้ทันที ถ้าตกลงได้ และเขายอมทำตามข้อเสนอ แต่ถ้ายังไม่ตกลง เราก็จะยกระดับทำเป็นป้ายขนาดใหญ่ขึ้นและเป็นป้ายถาวรทำจากปูนซีเมนต์”นายเสนาะ กล่าว
นายเสนาะกล่าวว่า แม้ผ่านไปแล้วกว่า 1 เดือนแต่จนบัดนี้ยังไม่ได้รับคำตอบว่าทางบริษัทอสังหาริมทรัพย์จะให้คำตอบอย่างไร เพียงแต่บอกว่าจะรายงานให้ผู้ใหญ่รับทราบ ซึ่งจริงๆแล้วตนเองก็ไม่รู้สึกมีหวังอะไรมากนัก แต่เขาก็รับฟังไป ซึ่งไม่รู้ว่าจะได้รับคำตอบหรือไม่ แต่เราก็ทำของเราไป
“เขาบอกว่ามาซื้อที่ดินหวังพัฒนาให้ประโยชน์สูงสุด อยากทำให้เป็นผืนเดียวกัน เมื่อเราบอกว่าถนนเดิม คลองเดิม มันมีอยู่จะทำอย่างไร หลักเขตก็มี เขาก็ไม่ได้ว่าอย่างไร เรากางแผนที่ให้เขาดูเรื่องถนนลงทะเลอีกแห่งหนึ่งที่มีการออกโฉนดขวาง ที่ดินบางแปลงมีลำเหมือง มีถนนเดิมอยู่ ในแผนที่ยังเป็นเป็นที่สาธารณะอยู่ แล้วจะทำอย่างไร”นายเสนาะ กล่าว
พลเอกสุรินทร์ กล่าวว่าทางบริษัทอสังหาริมทรัพย์รับที่จะดำเนินการตามที่นายเสนาะและชาวบ้านเสนอ ส่วนจะเมื่อไหร่นั้น ยังไม่ได้กำหนด คงจะต้องอยู่ใน Master plan ของบริษัท
“ผมบอกเขาไปว่าการเป็นบริษัทใหญ่ ต้องไม่ทำผิดกฎหมาย แม้ว่าที่ดินบางแปลงปรากฏอยู่หน้าโฉนดอาจถูกต้องเพราะทำขึ้นมาใหม่ แต่ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วได้มีการกว้านซื้อที่ดินซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจจะทับที่คลองสาธารณะ ดังนั้นจะต้องดูให้ดี เป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้วที่บริษัทจะเข้ามาลงทุนใหญ่เพราะช่วยสร้างงานในท้องถิ่นจึงควรผูกมิตรกับคนรอบๆเอาไว้ ควรสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชนเอาไว้ ผมเชื่อว่าบริษัทคงไม่ต้องการทำอะไรที่ทำให้คนสาปแช่ง”พล.อ.สุรินทร์ กล่าว
นายเสนาะ สุขจำเริญ อดีตผู้ใหญ่บ้านบ่อไร่ กล่าวว่า เมื่อเร็วนี้ พล.อ.สุรินทร์ พิกุลทอง อดีตประธานอนุกรรมการแก้ปัญหาการบุกรุกที่ดินรัฐ สำนักนายกรัฐมนตรี ได้พาตัวแทน 2 คนของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดิน 4 หมื่นไร่ซึ่งมีปัญหากับชาวบ้านมาพบ โดยตนเสนอไปว่าให้เขาช่วยถมดินกลบคลองตากบให้เหมือนเดิมเพราะมีเสาหลักเขตเดิมอยู่แล้ว หรือไม่ก็กันแนวเขตที่ถมใหม่ทำเป็นถนนเลียบคลองลงทะเล
“เขาอยากให้เอาป้ายที่ชาวบ้านเขียนสาปแช่งคนที่บุกรุกป่าชายเลนและที่ดินสาธารณะซึ่งติดไว้ริมคลองออก แต่พวกเราบอกว่าจะเอาลงให้ทันที ถ้าตกลงได้ และเขายอมทำตามข้อเสนอ แต่ถ้ายังไม่ตกลง เราก็จะยกระดับทำเป็นป้ายขนาดใหญ่ขึ้นและเป็นป้ายถาวรทำจากปูนซีเมนต์”นายเสนาะ กล่าว
นายเสนาะกล่าวว่า แม้ผ่านไปแล้วกว่า 1 เดือนแต่จนบัดนี้ยังไม่ได้รับคำตอบว่าทางบริษัทอสังหาริมทรัพย์จะให้คำตอบอย่างไร เพียงแต่บอกว่าจะรายงานให้ผู้ใหญ่รับทราบ ซึ่งจริงๆแล้วตนเองก็ไม่รู้สึกมีหวังอะไรมากนัก แต่เขาก็รับฟังไป ซึ่งไม่รู้ว่าจะได้รับคำตอบหรือไม่ แต่เราก็ทำของเราไป
“เขาบอกว่ามาซื้อที่ดินหวังพัฒนาให้ประโยชน์สูงสุด อยากทำให้เป็นผืนเดียวกัน เมื่อเราบอกว่าถนนเดิม คลองเดิม มันมีอยู่จะทำอย่างไร หลักเขตก็มี เขาก็ไม่ได้ว่าอย่างไร เรากางแผนที่ให้เขาดูเรื่องถนนลงทะเลอีกแห่งหนึ่งที่มีการออกโฉนดขวาง ที่ดินบางแปลงมีลำเหมือง มีถนนเดิมอยู่ ในแผนที่ยังเป็นเป็นที่สาธารณะอยู่ แล้วจะทำอย่างไร”นายเสนาะ กล่าว
พลเอกสุรินทร์ กล่าวว่าทางบริษัทอสังหาริมทรัพย์รับที่จะดำเนินการตามที่นายเสนาะและชาวบ้านเสนอ ส่วนจะเมื่อไหร่นั้น ยังไม่ได้กำหนด คงจะต้องอยู่ใน Master plan ของบริษัท
“ผมบอกเขาไปว่าการเป็นบริษัทใหญ่ ต้องไม่ทำผิดกฎหมาย แม้ว่าที่ดินบางแปลงปรากฏอยู่หน้าโฉนดอาจถูกต้องเพราะทำขึ้นมาใหม่ แต่ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วได้มีการกว้านซื้อที่ดินซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจจะทับที่คลองสาธารณะ ดังนั้นจะต้องดูให้ดี เป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้วที่บริษัทจะเข้ามาลงทุนใหญ่เพราะช่วยสร้างงานในท้องถิ่นจึงควรผูกมิตรกับคนรอบๆเอาไว้ ควรสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชนเอาไว้ ผมเชื่อว่าบริษัทคงไม่ต้องการทำอะไรที่ทำให้คนสาปแช่ง”พล.อ.สุรินทร์ กล่าว