เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2563 พลตรี สัชฌาการ คุณยศยิ่ง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 จัดพิธีต้อนรับทหารใหม่ เพื่อเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ผลัดที่ 1/63 และครอบครัวญาติทหารใหม่ ที่บริเวณลานผู้กล้าหน้าอนุสาวรีย์ผู้เสียสละ ค่ายเม็งรายมหาราช ถนนหน้าค่าย ตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย เพื่อพบปะ ทักทาย สร้างกำลังใจและความมั่นใจให้กับทหารใหม่และญาติที่จะได้รับการดูแลปลูกฝังอุดมการณ์ความกล้าหาญและการรักษาความมั่นคงของประเทศ
สำหรับการรับ - ส่งทหารกองประจำการในผลัดนี้ ซึ่งมีกำหนดให้เข้ารับราชการเป็นทหารกองประจำการในผลัดที่ 1/63 มีจำนวน 787 นาย แบ่งเป็นหน่วยฝึกมณฑลทหารบกที่ 37 และ ร.17 พัน 3 ค่ายเม็งรายมหาราช จังหวัดเชียงราย จำนวน 257 นาย ส่งให้มณฑลทหารบกที่ 34 ค่ายขุนเจืองธรรมิกราช จังหวัดพะเยา จำนวน 209 นาย และส่งให้มณฑลทหารบกที่ 33 ค่ายกาวิละ จำนวน 226 นาย
พลตรี สัชฌาการ คุณยศยิ่ง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 กล่าวว่า สำหรับการฝีกหลักสูตรทหารใหม่เป็นหลักสูตรพื้นฐาน ซึ่งทำการฝึกเหมือนกันทั้งกองทัพบก โดยเริ่มจากเบาไปหาหนัก มีครูฝึกทหารที่ผ่านการฝึกเป็นผู้รับผิดชอบในทุกชุดการฝึก ทั้งเรื่องการกินอยู่ หลับนอน ขอให้มั่นใจได้ว่า กองทัพเราจะดูแลบุตรหลานของท่านเป็นอย่างดี จะไม่มีอันตรายที่จะเกิดในการฝึก
"นอกจากนี้ ยังมีโรงพยาบาลค่ายเม็งรายมหาราช มาเฝ้าระวังรักษาพยาบาลเมื่อมีการเจ็บป่วยในระหว่างการฝึก ซึ่งจะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อีกทั้ง กองทัพบกได้กำหนดมาตรการในการป้องกันการฝึกวินัย หรือลงโทษทหารใหม่ จะไม่ให้มีการทำร้ายร่างกายทหารใหม่โดยเด็ดขาด" ผบ.มทบ.37 กล่าวให้ความมั่นใจในช่วงท้าย
จากนั้น ที่หน่วยฝึกมณฑลทหารบกที่ 37 ได้เปิดให้ผู้ปกครอง ครอบครัว ญาติของทหารใหม่เข้าเยี่ยมชมอาคารสถานที่ในหน่วยฝึก ทั้งโรงนอน และห้องน้ำ ทั้งยังได้จัดรถครัวสนามให้บริการอาหารกล่องด้วย สร้างความอุ่นใจให้แก่ญาติผู้ปกครอง ครอบครัว และญาติเป็นอย่างยิ่ง
พลทหาร อนุสรณ์ ปรียา จากอำเภอขุนตาล หนึ่งในทหารใหม่ ผลัดที่ 1/2563 กล่าว่า "มีความภาคภูมิใจที่ได้เข้ารับราชการเป็นทหารใหม่ของกองทัพบกไทย ตนเองแม้จะสำเร็จการศึกษาปริญญาตรีแล้ว แต่มีความเชื่อมั่นศรัทธาในกระบวนการทหาร ที่จะเปลี่ยนบุคลิกภาพให้มีความอดทน เข้มแข็ง เสียสละ และรับใช้ประเทศชาติ รักษาอธิปไตยของชาติไทย และพัฒนาร่างกายจิตใจให้พร้อมเป็นพลเมืองที่ดีมีคุณภาพต่อไป และรู้สึกภูมิใจที่ได้รับใช้ชาติ แม้การฝึกจะเหนื่อยยาก ลำบากเพียงใด ตนมั่นใจว่าจะผ่านไปได้ด้วยดีเพราะ มีกำลังใจเต็มร้อย"
สำหรับ นายสุรินทร์ อายุยืน หนึ่งในตัวแทนครอบครัวทหารใหม่ กล่าวด้วยว่า มีความรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่บุตรชายได้เข้ามาเป็นรั้วของชาติ ซึ่งตนไม่มีความกังวลใจ และเชื่อว่าหลังจากผ่านการฝึกทหารแล้ว ทหารใหม่ทุกคนจะมีระเบียบวินัย อ่อนน้อม และมีจิตช่วยเหลือสังคม และหากมีโอกาสก็อยากให้บุตรของตนได้รับราชการทหารในโอกาสต่อไปด้วย
พลตรี สัชฌาการ คุณยศยิ่ง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 กล่าวว่า สำหรับการฝีกหลักสูตรทหารใหม่เป็นหลักสูตรพื้นฐาน ซึ่งทำการฝึกเหมือนกันทั้งกองทัพบก โดยเริ่มจากเบาไปหาหนัก มีครูฝึกทหารที่ผ่านการฝึกเป็นผู้รับผิดชอบในทุกชุดการฝึก ทั้งเรื่องการกินอยู่ หลับนอน ขอให้มั่นใจได้ว่า กองทัพเราจะดูแลบุตรหลานของท่านเป็นอย่างดี จะไม่มีอันตรายที่จะเกิดในการฝึก
"นอกจากนี้ ยังมีโรงพยาบาลค่ายเม็งรายมหาราช มาเฝ้าระวังรักษาพยาบาลเมื่อมีการเจ็บป่วยในระหว่างการฝึก ซึ่งจะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อีกทั้ง กองทัพบกได้กำหนดมาตรการในการป้องกันการฝึกวินัย หรือลงโทษทหารใหม่ จะไม่ให้มีการทำร้ายร่างกายทหารใหม่โดยเด็ดขาด" ผบ.มทบ.37 กล่าวให้ความมั่นใจในช่วงท้าย
จากนั้น ที่หน่วยฝึกมณฑลทหารบกที่ 37 ได้เปิดให้ผู้ปกครอง ครอบครัว ญาติของทหารใหม่เข้าเยี่ยมชมอาคารสถานที่ในหน่วยฝึก ทั้งโรงนอน และห้องน้ำ ทั้งยังได้จัดรถครัวสนามให้บริการอาหารกล่องด้วย สร้างความอุ่นใจให้แก่ญาติผู้ปกครอง ครอบครัว และญาติเป็นอย่างยิ่ง
พลทหาร อนุสรณ์ ปรียา จากอำเภอขุนตาล หนึ่งในทหารใหม่ ผลัดที่ 1/2563 กล่าว่า "มีความภาคภูมิใจที่ได้เข้ารับราชการเป็นทหารใหม่ของกองทัพบกไทย ตนเองแม้จะสำเร็จการศึกษาปริญญาตรีแล้ว แต่มีความเชื่อมั่นศรัทธาในกระบวนการทหาร ที่จะเปลี่ยนบุคลิกภาพให้มีความอดทน เข้มแข็ง เสียสละ และรับใช้ประเทศชาติ รักษาอธิปไตยของชาติไทย และพัฒนาร่างกายจิตใจให้พร้อมเป็นพลเมืองที่ดีมีคุณภาพต่อไป และรู้สึกภูมิใจที่ได้รับใช้ชาติ แม้การฝึกจะเหนื่อยยาก ลำบากเพียงใด ตนมั่นใจว่าจะผ่านไปได้ด้วยดีเพราะ มีกำลังใจเต็มร้อย"
สำหรับ นายสุรินทร์ อายุยืน หนึ่งในตัวแทนครอบครัวทหารใหม่ กล่าวด้วยว่า มีความรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่บุตรชายได้เข้ามาเป็นรั้วของชาติ ซึ่งตนไม่มีความกังวลใจ และเชื่อว่าหลังจากผ่านการฝึกทหารแล้ว ทหารใหม่ทุกคนจะมีระเบียบวินัย อ่อนน้อม และมีจิตช่วยเหลือสังคม และหากมีโอกาสก็อยากให้บุตรของตนได้รับราชการทหารในโอกาสต่อไปด้วย