ชี้ไม่เคยทราบเรื่องการยกเลิกมาก่อน มีเพียงการติดป้ายประกาศให้รื้อถอนร้านค้าให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน ระบุหากผู้ค้ามีการรุกล้ำพื้นที่จริงสำนักงานตลาดคงจะไม่อนุญาตให้ขายและมีการออกใบเสร็จรับชำระเงินให้ วอนกทม.ขยายเวลาออกไปก่อน วันที่ 31 ส.ค.63ศาลาว่าการกทม.(เสาชิงช้า) ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีกลุ่มผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรที่ได้รับความเดือดร้อนจากประกาศสำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร เรื่องยกเลิกการอนุญาตทำการค้านอกแผงค้ากึ่งถาวร บริเวณริมรางระบายน้ำภายในตลาดนัดจตุจักร ลงวันที่ 19 มิถุนายน 2563 โดยอ้างว่าผู้ค้าผิดหลักเกณฑ์ ตั้งวางพื้นที่เกินจากที่อนุญาต การนำไปเช่าช่วงในราคาแพงและการทำที่ตั้งวางสินค้าลักษณะถาวรไม่สามารถยกขึ้นได้โดย น.ส.ภูษณิศา ปานสายลม ตัวแทน เป็นตัวแทนยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ศาลาว่าการกทม.(เสาชิงช้า) เพื่อให้พิจารณาทบทวนยกเลิกประกาศดังกล่าว พร้อมกล่าวว่า วันนี้กลุ่มผู้ค้าที่ได้รับความเดือดร้อนจากประกาศฉบับดังกล่าว จึงรวมตัวกันมาเพื่อยื่นหนังสื่อถึง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อขอให้ยกเลิกประกาศสำนักงานตลาดกทม. เรื่อง การยกเลิกการอนุญาตทำการค้านอกแผงค้ากึ่งถาวรบริเวณริมรางระบายน้ำภายในตลาดนัดจตุจักร เนื่องจากกลุ่มผู้ค้าจตุจักรพัฒนาไม่เคยทราบเรื่องการยกเลิกดังกล่าวมาก่อน มีเพียงการติดป้ายประกาศให้รื้อถอนร้านค้าให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน ทำให้ได้รับความเดือดร้อนเพราะที่ผ่านมาประสบปัญหาโควิด-19 ค้าขายไม่ได้ อีกทั้งกลุ่มผู้ค้าก็ใช้สถานที่แห่งนี้ขายของมา 30 ปี มีการเขียนคำร้องขอชำระเงินการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ตลาดนัดจตุจักร โดยสำนักงานตลาดก็ได้ออกใบเสร็จรับชำระเงินทุกเดือน ทั้งนี้ยืนยันว่าทางกลุ่มผู้ค้าปฏิบัติตามระเบียบและให้ความร่วมมือมาโดยตลอด ไม่ได้มีการรุกล้ำหรือบุกรุกริมรางระบายน้ำแต่อย่างใด ทั้งนี้หากผู้ค้ามีการรุกล้ำพื้นที่จริงสำนักงานตลาดคงจะไม่อนุญาตให้ขายและมีการออกใบเสร็จรับชำระเงินให้ ซึ่งหากพบร้านใดที่วางรุกล้ำเกินเข้าไปในพื้นที่ริมรางก็ควรจะตักเตือนหรือปรับเป็นรายไป สำหรับข้อเรียกร้องของกลุ่ม 4 ข้อ มีดังนี้ 1.ขอให้มีการยกเลิกประกาศ เรื่อง การยกเลิกการอนุญาตทำการค้านอกแผงกึ่งถาวร บริเวณริมรางระบายน้ำภายในตลาดนัดจตุจักรและควรชี้แจงจุดที่ควรปรับปรุงแก้ไขให้สอดคล้องวัตถุประสงค์อย่างเป็นธรรมและเมตตา 2.ขอให้สงวนสิทธิ์ให้พ่อค้าแม่ค้าให้ได้ใช้พื้นที่ส่วนนี้ก่อนจนกว่า จะมีการพิจารณาให้แล้วเสร็จโดยทางพ่อค้าแม่ค้ายินยอมจ่ายค่าเช่าตามเดิมคือเดือนละ 500 -1,200 บาทต่อเดือน เริ่มตั้งแต่เดือนกันยายน 2563 ที่จะถึงนี้ 3.ผู้ค้ายอมที่จะรื้อถอนพื้นที่ริมรางให้แก้ไขเป็นแบบพับเก็บได้ในรูปแบบที่กทม.กำหนด แต่ขอให้ผู้ค้ายังมีสิทธิ์เช่าพื้นที่ดังกล่าวเหมือนเดิมและ 4 กำหนดพื้นที่ริมรางให้เป็นพื้นที่ที่อยู่ในทะเบียนเช่นเดียวกับพื้นที่โครงการ 30 จากนั้นตัวแทนกลุ่มผู้ค้าได้เข้าประชุมร่วมกับนายเกรียงพล พัฒนรัฐ เลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นางวัลยา วัฒนรัตน์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ใช้เวลานาน 1 ชั่วโมง ในที่ประชุมกลุ่มผู้ค้า ได้ขอให้เลื่อนเวลาตามประกาศให้รื้อถอนร้านค้าให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน ออกไปก่อน เพื่อให้สามารถค้าขายได้เช่นเดิม เพราะขณะนี้ประสบปัญหาโควิด-19 นอกจากนี้กลุ่มผู้ค้า ขอให้ทำการค้าขายในวันศุกร์ ช่วงกลางคืนได้ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา พื้นที่ดังกล่าว ต้องรับการพัฒนา เพราะมีการร้องเรียนจากประชาชนว่าพื้นที่มีความสกปรก ไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย ดังนั้นจึงต้องมีการพัฒนา อย่างไรก็ตามคณะผู้บริหาร จะรับข้อเสนอดังกล่าว นำไปพิจารณาต่อไป