เมื่อวันที่ 30 ส.ค.63 นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีการตั้งงบประมาณต่อสู้คดี บริษัทคิงส์เกตว่า หลายคนถามว่ากรณีรัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ตั้งแต่ปี 2562-2564 รวม 389 ล้านบาท เพื่อใช้ในการต่อสู้คดีที่รัฐบาลถูกบริษัท คิงส์เกท คอนโซลิเดทเต็ด ลิมิเต็ด  ยื่นฟ้องต่ออนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ หากแพ้คดีรัฐบาลอาจจะต้องรับผิดชดใช้เงินหลายหมื่นล้านบาท กรณีนี้จะเอาคืนได้จากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ได้หรือไม่นั้น การใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของพล.อ.ประยุทธ์ถือเป็นความโง่อย่างสมบูรณ์แบบเพราะอำนาจดังกล่าวมีอยู่แล้วตามมาตรา 125 และ 126 ของ พ.ร.บ. แร่ พ.ศ. 2510 ไม่จำเป็นต้องไปใช้อำนาจของหัวหน้าเผด็จการให้ถูกฟ้อง แต่ความซวยของคนไทยคือนายมีชัย ฤชุพันธุ์ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ เขียนรัฐธรรมนูญมาตรา 279 นิรโทษกรรมการกระทำของ คสช. ทั้งหมด ทำให้รัฐบาลไม่อาจไปเรียกร้องค่าโง่คืนจากพล.อ.ประยุทธ์ในฐานะหัวหน้า คสช. ได้ แต่การที่มาตรา 44 กำหนดให้หัวหน้า คสช. ต้องรายงานการออกคำสั่งให้ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)และนายกฯทราบโดยเร็ว นายวัฒนา ระบุว่า หากบุคคลทั้งสองเห็นว่าเป็นการออกคำสั่งที่ไม่ชอบต้องทักท้วงหรือขอให้แก้ไข แต่การที่บุคคลทั้งสองปล่อยให้คำสั่งดังกล่าวถูกนำไปใช้จนก่อให้เกิดความเสียหาย ประธานสนช.และนายกฯจึงต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายคืนให้รัฐตามมาตรา 9 แห่ง พ.ร.บ.ศาลปกครอง ดังนั้น หากรัฐบาลต้องไปชดใช้ค่าเสียหาย ถึงแม้จะไม่อาจเรียกร้องคืนจากพล.อ.ประยุทธ์ในฐานะหัวหน้า คสช. ก็ยังเรียกร้องในฐานะนายกฯและประธาน สนช. เหมือนที่เคยกล่าวหาน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ปล่อยปละละเลยในคดีรับจำนำข้าว  เมื่อถามว่าในการพิจารณาของกรรมาธิการงบฯ จะพิจารณาอย่างไรบ้าง นายวัฒนา กล่าวว่า ถ้าเป็นค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดีก็ต้องให้ไปเพราะไม่เช่นนั้นใครจะต่อสู้คดีให้ แต่หลังจากคดีจบสิ้นแล้วใครเป็นผู้รับผิดชอบก็ต้องไปไล่เบี้ยกันอีกที เมื่อถามว่านายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯระบุการใช้ม.44 เป็นเพียงการระงับการทำเหมือง ไม่ใช่การสั่งปิดจนเกิดความเสียหาย นายวัฒนา กล่าวว่า การระงับใบอนุญาตก็ทำกิจการต่อไม่ได้ก็เท่ากับการปิดเหมืองถือว่ามีความหมายเหมือนกันจึงเป็นเหตุให้เขามาฟ้องเราได้.