ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสำหรับสัปดาห์ถัดไป (31 ส.ค.-4 ก.ย.) ที่ 31.10-31.50 บาท/ดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยในประเทศที่สำคัญ ได้แก่ รายงานเศรษฐกิจการเงินเดือนก.ค.ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสถานการณ์ทางการเมือง ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ระหว่างสัปดาห์ได้แก่ ดัชนี ISM และ PMI ภาคการผลิต/ภาคบริการ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP เดือนส.ค. ยอดสั่งซื้อภาคโรงงาน รายจ่ายด้านการก่อสร้างเดือนก.ค. และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book) ของเฟด นอกจากนี้ตลาดอาจรอติดตามดัชนี PMI ภาคการผลิต/ภาคบริการเดือนส.ค. ของจีน ยูโรโซน และญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาเงินบาทแข็งค่าขึ้น สอดคล้องกับทิศทางสกุลเงินเอเชียและเงินหยวน (หลังการหารือของสหรัฐฯ-จีนในเรื่องดีลการค้าเฟสแรกมีความคืบหน้า) ประกอบกับมีแรงหนุนจากปัจจัยทางเทคนิคหลังเงินบาทแข็งค่าผ่านหลายแนวสำคัญระหว่างสัปดาห์ ทั้งนี้เงินบาทยังคงแข็งค่าต่อเนื่องจนถึงปลายสัปดาห์ และแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ที่ 31.16 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ (28 ส.ค.) ขณะที่เงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าลง (จากที่ฟื้นตัวช่วงสั้นๆ หลังปาฐกถาของประธานเฟดเป็นไปตามที่ตลาดคาด) เนื่องจากตลาดมองว่า การเปลี่ยนมาใช้เป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ยของเฟดจะทำให้เฟดคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำเป็นเวลานาน และจะไม่รีบปรับขึ้นดอกเบี้ยล่วงหน้าเพื่อสกัดความเสี่ยงเงินเฟ้อ