หมายจับ อ.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ เบี้ยวนัดฟังอุทธรณ์ คดี พธม. บุกทำเนียบปี 51 นัดใหม่อีกครั้ง 24 ก.ค.นี้
ที่ห้องพิจารณา 710 ศาลอาญาถ.รัชดาภิเษก เวลา 10.00 น. วันที่ 19 มิ.ย. นี้ ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีพันธมิตร ฯ บุกทำเนียบรัฐบาล หมายเลขดำ อ.4925 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้อง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง อายุ 82 ปี นายสนธิ ลิ้มทองกุล อายุ 69 ปี นายพิภพ ธงไชย อายุ 71 ปี นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อายุ 67 ปี นายสมศักดิ์ โกศัยสุข อายุ 71 ปี และนายสุริยะใส กตะศิลาอายถ 44 ปี แกนนำพันธมิตรฯเป็นจำเลยที่ 1-5 ฐานร่วมกันบุกรุก ทำให้เสียทรัพย์
กรณีเมื่อวันที่ 25 พ.ค.51 จำเลยกับพวกได้ปราศรัยชักชวนให้ประชาชนกดดันให้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี (ขณะนั้น)ลาออก แล้วปิดล้อมเข้าควบคุมทำเนียบรัฐบาล ห้ามราชการเข้าปฏิบัติหน้าที่ ทำลายทรัพย์สินได้รับความเสียหายจำนวนมาก
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พวกจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง พิพากษาจำคุกจำเลยคนละ 3 ปี ลดโทษให้1ใน3 คงจำคุกจำเลยไว้คนละ 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา.
อย่างไรก็ตามเมื่อถึงเวลา จำเลยทุกคนมาศาล ยกเว้นนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ จำเลยที่ 4 ซึ่งทนายความนำใบรับรองแพทย์ มาแสดง อ้างว่า นายสมเกียรติ มีอาการป่วยลักษณะบ้านหมุน ไม่สามารถเดินทางมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ได้ จึงขอเลื่อนฟังคำพิพากษาออกไปก่อน
ศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ใบรับรองแพทย์ยังไม่น่าเชื่อถือ รวมทั้งทนายความจำเลยที่ 4 ไม่สามารถนำแพทย์ ผู้รักษามาไต่สวนหาข้อเท็จจริงได้ เชื่อว่า จำเลยที่ 4 มีพฤติการณ์จะหลบหนี จึงให้ออกหมายจับ ปรับนายประกันเต็มตามจำนวน 2 แสนบาท และนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อีกครั้งวันที่ 24 ก.ค.นี้ เวลา 09.00 น.
ที่ห้องพิจารณา 710 ศาลอาญาถ.รัชดาภิเษก เวลา 10.00 น. วันที่ 19 มิ.ย. นี้ ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีพันธมิตร ฯ บุกทำเนียบรัฐบาล หมายเลขดำ อ.4925 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้อง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง อายุ 82 ปี นายสนธิ ลิ้มทองกุล อายุ 69 ปี นายพิภพ ธงไชย อายุ 71 ปี นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อายุ 67 ปี นายสมศักดิ์ โกศัยสุข อายุ 71 ปี และนายสุริยะใส กตะศิลาอายถ 44 ปี แกนนำพันธมิตรฯเป็นจำเลยที่ 1-5 ฐานร่วมกันบุกรุก ทำให้เสียทรัพย์
กรณีเมื่อวันที่ 25 พ.ค.51 จำเลยกับพวกได้ปราศรัยชักชวนให้ประชาชนกดดันให้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี (ขณะนั้น)ลาออก แล้วปิดล้อมเข้าควบคุมทำเนียบรัฐบาล ห้ามราชการเข้าปฏิบัติหน้าที่ ทำลายทรัพย์สินได้รับความเสียหายจำนวนมาก
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พวกจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง พิพากษาจำคุกจำเลยคนละ 3 ปี ลดโทษให้1ใน3 คงจำคุกจำเลยไว้คนละ 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา.
อย่างไรก็ตามเมื่อถึงเวลา จำเลยทุกคนมาศาล ยกเว้นนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ จำเลยที่ 4 ซึ่งทนายความนำใบรับรองแพทย์ มาแสดง อ้างว่า นายสมเกียรติ มีอาการป่วยลักษณะบ้านหมุน ไม่สามารถเดินทางมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ได้ จึงขอเลื่อนฟังคำพิพากษาออกไปก่อน
ศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ใบรับรองแพทย์ยังไม่น่าเชื่อถือ รวมทั้งทนายความจำเลยที่ 4 ไม่สามารถนำแพทย์ ผู้รักษามาไต่สวนหาข้อเท็จจริงได้ เชื่อว่า จำเลยที่ 4 มีพฤติการณ์จะหลบหนี จึงให้ออกหมายจับ ปรับนายประกันเต็มตามจำนวน 2 แสนบาท และนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อีกครั้งวันที่ 24 ก.ค.นี้ เวลา 09.00 น.