‘จุรินทร์’คุยทูตเม็กซิโก ให้นำเข้าข้าวและสินค้าเกษตรแปรรูปจากไทยเพิ่มขึ้น พร้อมหาทางให้นักธุรกิจสองฝ่ายคุยกันผ่านออนไลน์มากขึ้น
เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2563 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้พบหารือกับนายเบร์นาโด กอร์โดบา เตโย เอกอัครราชทูตเม็กซิโกประจำประเทศไทย (H.E. Mr. Bernado Cordova Tello: Ambassador of Mexico in Thailand) ร่วมกับทีมส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับเม็กซิโก ซึ่งในวันที่ 28 สิงหาคมนี้ เป็นวันครบรอบความสัมพันธ์ 45 ปี ไทยกับเม็กซิโก
นายจุรินทร์ เปิดเผยว่า สิ่งที่หารือกับท่านทูตมี 2 เรื่องสำคัญ เรื่องแรก คือ ขอให้เม็กซิโกช่วยนำเข้าข้าวและผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูปจากไทยมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา เม็กซิโกมีโควตานำเข้าข้าวจากทั่วโลก ปีละประมาณ 150,000 ตัน แต่สำหรับปี 2563 เป็นต้นไป ยังไม่มีข้อสรุปในการกำหนดโควตาการนำเข้าข้าว ซึ่งได้ขอให้ท่านทูตช่วยแจ้งความคืบหน้าในโอกาสต่อไป และช่วยสนับสนุนให้ไทยนำเข้าข้าวไปเม็กซิโกได้มากขึ้น
สำหรับสินค้าเกษตรแปรรูป ที่ต้องการให้เม็กซิโกนำเข้าจากไทยมากขึ้น ประกอบด้วย ผลไม้กระป๋อง อาหารทะเลแปรรูป สินค้าอาหารแปรรูปอื่นๆ รวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ ซึ่งปัจจุบันไทยได้ส่งออกสินค้าไปเม็กซิโกจำนวนมาก อาทิ สินค้าและสินค้าอื่นๆที่จำเป็น รวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาโควิด-19 เช่นน้ำยาฆ่าเชื้อ เป็นต้น
ส่วนเรื่องที่ 2 คือ ขอให้เม็กซิโกช่วยสนับสนุนไทยในการจับคู่เจรจาทางธุรกิจระหว่างนักธุรกิจเม็กซิโกกับไทย ทั้งในส่วนของผู้ส่งออกและผู้นำเข้า ในรูปแบบ Online Business Matching ซึ่งกระทรวงพาณิชย์มีความประสงค์ที่จะดำเนินการ เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าและการส่งออกของไทยด้วย โดยท่านทูตรับว่าจะช่วยสนับสนุนและจะช่วยประสานงานกับหอการค้าไทยเม็กซิโก เพื่อร่วมมือกันดำเนินการในเรื่องนี้ และได้มอบให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศติดตามและดำเนินการจับคู่ทางธุรกิจไทยเม็กซิโก เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันโดยเร็ว
“ในการจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจนี้ นอกจากสินค้าข้างต้นยังมีอีกหนึ่งอุตสาหกรรมสำคัญ คือ กิจการทางด้านภาพยนตร์ และละครที่เป็นซีรีส์ ซึ่งขณะนี้ได้รับการตอบรับจากตลาดเม็กซิโกเป็นอย่างดี โดยเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่จะจัด Business Matching Online ก่อนจัด Business Matching” นายจุรินทร์กล่าว
สำหรับสินค้าเกษตรแปรรูป ที่ต้องการให้เม็กซิโกนำเข้าจากไทยมากขึ้น ประกอบด้วย ผลไม้กระป๋อง อาหารทะเลแปรรูป สินค้าอาหารแปรรูปอื่นๆ รวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ ซึ่งปัจจุบันไทยได้ส่งออกสินค้าไปเม็กซิโกจำนวนมาก อาทิ สินค้าและสินค้าอื่นๆที่จำเป็น รวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาโควิด-19 เช่นน้ำยาฆ่าเชื้อ เป็นต้น
ส่วนเรื่องที่ 2 คือ ขอให้เม็กซิโกช่วยสนับสนุนไทยในการจับคู่เจรจาทางธุรกิจระหว่างนักธุรกิจเม็กซิโกกับไทย ทั้งในส่วนของผู้ส่งออกและผู้นำเข้า ในรูปแบบ Online Business Matching ซึ่งกระทรวงพาณิชย์มีความประสงค์ที่จะดำเนินการ เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าและการส่งออกของไทยด้วย โดยท่านทูตรับว่าจะช่วยสนับสนุนและจะช่วยประสานงานกับหอการค้าไทยเม็กซิโก เพื่อร่วมมือกันดำเนินการในเรื่องนี้ และได้มอบให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศติดตามและดำเนินการจับคู่ทางธุรกิจไทยเม็กซิโก เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันโดยเร็ว
“ในการจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจนี้ นอกจากสินค้าข้างต้นยังมีอีกหนึ่งอุตสาหกรรมสำคัญ คือ กิจการทางด้านภาพยนตร์ และละครที่เป็นซีรีส์ ซึ่งขณะนี้ได้รับการตอบรับจากตลาดเม็กซิโกเป็นอย่างดี โดยเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่จะจัด Business Matching Online ก่อนจัด Business Matching” นายจุรินทร์กล่าว