"สองล้อ" ใช้ศึกบีเอ็มเอ็กซ์ ชิงแชมป์ประเทศไทย ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจให้ จ.สุพรรณบุรี สนามที่ 2 และ 3 วันที่ 5-6 กันยายน ที่สนามเสมอกันเซอร์กิต จ.สุพรรณบุรี ในรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ New Normal หลังจากประสบความสำเร็จในการจัดแข่งขันประเภทถนนและเสือภูเขา ที่ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ทำให้เศรษฐกิจเฟื่องฟู สร้างรายได้ให้แก่ชุมชนอย่างมหาศาล ด้าน "เสธ.หมึก" คาดว่าจะมีนักกีฬาและผู้ติดตามเข้าร่วมมากกว่า 1,000 คน ทั้งนี้สมาคมกีฬาจักรยานฯ จะยึดมาตรการหลัก 5 ข้อของ "ศบค." อย่างเคร่งครัด
"เสธ.หมึก" พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า สมาคมกีฬาจักรยานฯ เตรียมจัดการแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2563 ในรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ New Normal สนามที่ 2 และ 3 ระหว่างวันที่ 5-6 กันยายน ที่สนามเสมอกันเซอร์กิต จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นการควบรวมกัน 2 สนาม คือวันเสาร์ที่ 5 กันยายน จะเป็นการแข่งขันสนามที่ 2 ส่วนวันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน เป็นการแข่งขันสนามที่ 3 โดยแบ่งเป็นช่วงเช้า เริ่มเวลา 09.00 น. แข่งขันรอบคัดเลือก และช่วงบ่ายเวลา 14.00 น. แข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ส่วนรุ่นแข่งขันยังมีครบทุกรุ่นเหมือนเดิมทุกประการ
พลเอกเดชา กล่าวว่า การแข่งขันครั้งนี้ เป็นการกลับมาแข่งขันหลังจากที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยก่อนหน้านี้สมาคมฯ ได้จัดแข่งขันสนามที่ 1 เมื่อวันที่ 22-23 กุมภาพันธ์ ที่สนามเสมอกันเซอร์กิต จ.สุพรรณบุรี ดังนั้นคาดว่าในสนามที่ 2 และ 3 นี้ จะมีนักกีฬาสมัครเข้าแข่งขันหลายร้อยคน อีกทั้งกองเชียร์และผู้ติดตาม รวมแล้วน่าจะมากกว่า 1,000 คนอย่างแน่นอน เพราะนักกีฬาบีเอ็มเอ็กซ์จะพากันมาทั้งครอบครัว สมาคมกีฬาจักรยานฯ จึงถือโอกาสใช้การแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ชิงแชมป์ประเทศไทย สนามที่ 2 และ 3 ช่วยฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจของ จ.สุพรรณบุรี หลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในการจัดแข่งขันจักรยานประเภทถนน และเสือภูเขาชิงแชมป์ประเทศไทย สนามที่ 3 ที่ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 21-23 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจใน อ.ทองผาภูมิ เฟื่องฟู และสร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างมหาศาล ธุรกิจต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมที่พัก ร้านอาหาร ร้านค้าภายในตัวอำเภอมีความคึกคักมาก หลังจากซบเซามานานเพราะพิษไวรัสโควิด-19
"เสธ.หมึก" กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม สมาคมกีฬาจักรยานฯ จะจัดการแข่งขันในแบบชีวิตวิถีใหม่ New Normal โดยยึดมาตรการหลัก 5 ข้อ ของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. อย่างเคร่งครัด ได้แก่ สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ รักษาระยะห่าง หลีกเลี่ยงการสัมผัส และจำกัดจำนวนคน สมาคมกีฬาจักรยานฯ จะเปิดรับสมัครผู้เข้าแข่งขันทางเว็บไซต์ของสมาคมฯ เท่านั้น ไม่รับสมัครหน้างานเหมือนสนามที่ผ่านมา นอกจากนี้จะไม่อนุญาตให้กองเชียร์และผู้ติดตามเข้าไปเชียร์ในสนาม โดยจะมีการปิดกั้นพื้นที่ 100% แล้วอนุญาตให้เฉพาะนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ผู้ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ซึ่งแต่ละทีมต้องส่งรายชื่อนักกีฬาพร้อมเจ้าหน้าที่ประจำทีมในสัดส่วนนักกีฬาไม่เกิน 3 คน ต่อเจ้าหน้าที่ 1 คน หากมีนักกีฬา 4-6 คน จะมีเจ้าหน้าที่ได้ 2 คน หรือนักกีฬา 7-9 คน ก็จะมีเจ้าหน้าที่ได้ 3 คน เป็นต้น
พลเอกเดชา กล่าวต่อว่า นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทุกคนก่อนจะเข้าสนามแข่งขันต้องผ่านจุดคัดกรองที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ จัดตั้งเอาไว้ที่หน้าสนาม เริ่มจากการตรวจสอบรายชื่อตามที่แต่ละสโมสรหรือชมรมแจ้งมา ผู้ที่ไม่มีรายชื่อก็ไม่มีสิทธิ์เข้าสนาม จากนั้นจะผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิด้วยเครื่องเทอร์โม สแกน, การลงทะเบียนในแอปพลิเคชัน "ไทยชนะ", รับไอดีการ์ด, ผ่านการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อจักรยาน พร้อมกับติดสติกเกอร์บนรถจักรยาน ก่อนจะเข้าไปภายในสนาม สำหรับผู้ติดตามและกองเชียร์ที่ไม่สามารถเข้าสนามได้ สมาคมกีฬาจักรยานฯ จะจัดตั้งโทรทัศน์วงจรปิด เพื่อให้ชมการแข่งขันด้านนอกของสนาม ส่วนการประกวดกองเชียร์จะงดจัดเพื่อหลีกเลี่ยงการแออัด ทั้งนี้จะจัดที่นั่งให้ผู้ชมนั่งชมการแข่งขันบนอัฒจันทร์ด้านนอกสนามได้ แต่ต้องมีการเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1.5 เมตร โดยทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา รวมไปถึงนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ในสนามด้วย ยกเว้นช่วงอบอุ่นร่างกายกับช่วงลงแข่งขัน
ทั้งนี้ นักกีฬาที่ต้องการสมัครเข้าร่วมการแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ชิงแชมป์ประเทศไทย สนามที่ 2 และ 3 สามารถเข้าไปสมัครได้ที่เว็บไซต์ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ www.thaicycling.or.th ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป (ไม่รับสมัครที่หน้างาน) และจะปิดรับสมัครในวันที่ 3 กันยายน ก่อนเวลา 12.00 น. หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ โทร.0-2719-3340-2
"เสธ.หมึก" พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า สมาคมกีฬาจักรยานฯ เตรียมจัดการแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2563 ในรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ New Normal สนามที่ 2 และ 3 ระหว่างวันที่ 5-6 กันยายน ที่สนามเสมอกันเซอร์กิต จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นการควบรวมกัน 2 สนาม คือวันเสาร์ที่ 5 กันยายน จะเป็นการแข่งขันสนามที่ 2 ส่วนวันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน เป็นการแข่งขันสนามที่ 3 โดยแบ่งเป็นช่วงเช้า เริ่มเวลา 09.00 น. แข่งขันรอบคัดเลือก และช่วงบ่ายเวลา 14.00 น. แข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ส่วนรุ่นแข่งขันยังมีครบทุกรุ่นเหมือนเดิมทุกประการ
พลเอกเดชา กล่าวว่า การแข่งขันครั้งนี้ เป็นการกลับมาแข่งขันหลังจากที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยก่อนหน้านี้สมาคมฯ ได้จัดแข่งขันสนามที่ 1 เมื่อวันที่ 22-23 กุมภาพันธ์ ที่สนามเสมอกันเซอร์กิต จ.สุพรรณบุรี ดังนั้นคาดว่าในสนามที่ 2 และ 3 นี้ จะมีนักกีฬาสมัครเข้าแข่งขันหลายร้อยคน อีกทั้งกองเชียร์และผู้ติดตาม รวมแล้วน่าจะมากกว่า 1,000 คนอย่างแน่นอน เพราะนักกีฬาบีเอ็มเอ็กซ์จะพากันมาทั้งครอบครัว สมาคมกีฬาจักรยานฯ จึงถือโอกาสใช้การแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ชิงแชมป์ประเทศไทย สนามที่ 2 และ 3 ช่วยฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจของ จ.สุพรรณบุรี หลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในการจัดแข่งขันจักรยานประเภทถนน และเสือภูเขาชิงแชมป์ประเทศไทย สนามที่ 3 ที่ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 21-23 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจใน อ.ทองผาภูมิ เฟื่องฟู และสร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างมหาศาล ธุรกิจต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมที่พัก ร้านอาหาร ร้านค้าภายในตัวอำเภอมีความคึกคักมาก หลังจากซบเซามานานเพราะพิษไวรัสโควิด-19
"เสธ.หมึก" กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม สมาคมกีฬาจักรยานฯ จะจัดการแข่งขันในแบบชีวิตวิถีใหม่ New Normal โดยยึดมาตรการหลัก 5 ข้อ ของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. อย่างเคร่งครัด ได้แก่ สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ รักษาระยะห่าง หลีกเลี่ยงการสัมผัส และจำกัดจำนวนคน สมาคมกีฬาจักรยานฯ จะเปิดรับสมัครผู้เข้าแข่งขันทางเว็บไซต์ของสมาคมฯ เท่านั้น ไม่รับสมัครหน้างานเหมือนสนามที่ผ่านมา นอกจากนี้จะไม่อนุญาตให้กองเชียร์และผู้ติดตามเข้าไปเชียร์ในสนาม โดยจะมีการปิดกั้นพื้นที่ 100% แล้วอนุญาตให้เฉพาะนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ผู้ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ซึ่งแต่ละทีมต้องส่งรายชื่อนักกีฬาพร้อมเจ้าหน้าที่ประจำทีมในสัดส่วนนักกีฬาไม่เกิน 3 คน ต่อเจ้าหน้าที่ 1 คน หากมีนักกีฬา 4-6 คน จะมีเจ้าหน้าที่ได้ 2 คน หรือนักกีฬา 7-9 คน ก็จะมีเจ้าหน้าที่ได้ 3 คน เป็นต้น
พลเอกเดชา กล่าวต่อว่า นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทุกคนก่อนจะเข้าสนามแข่งขันต้องผ่านจุดคัดกรองที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ จัดตั้งเอาไว้ที่หน้าสนาม เริ่มจากการตรวจสอบรายชื่อตามที่แต่ละสโมสรหรือชมรมแจ้งมา ผู้ที่ไม่มีรายชื่อก็ไม่มีสิทธิ์เข้าสนาม จากนั้นจะผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิด้วยเครื่องเทอร์โม สแกน, การลงทะเบียนในแอปพลิเคชัน "ไทยชนะ", รับไอดีการ์ด, ผ่านการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อจักรยาน พร้อมกับติดสติกเกอร์บนรถจักรยาน ก่อนจะเข้าไปภายในสนาม สำหรับผู้ติดตามและกองเชียร์ที่ไม่สามารถเข้าสนามได้ สมาคมกีฬาจักรยานฯ จะจัดตั้งโทรทัศน์วงจรปิด เพื่อให้ชมการแข่งขันด้านนอกของสนาม ส่วนการประกวดกองเชียร์จะงดจัดเพื่อหลีกเลี่ยงการแออัด ทั้งนี้จะจัดที่นั่งให้ผู้ชมนั่งชมการแข่งขันบนอัฒจันทร์ด้านนอกสนามได้ แต่ต้องมีการเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1.5 เมตร โดยทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา รวมไปถึงนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ในสนามด้วย ยกเว้นช่วงอบอุ่นร่างกายกับช่วงลงแข่งขัน
ทั้งนี้ นักกีฬาที่ต้องการสมัครเข้าร่วมการแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ชิงแชมป์ประเทศไทย สนามที่ 2 และ 3 สามารถเข้าไปสมัครได้ที่เว็บไซต์ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ www.thaicycling.or.th ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป (ไม่รับสมัครที่หน้างาน) และจะปิดรับสมัครในวันที่ 3 กันยายน ก่อนเวลา 12.00 น. หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ โทร.0-2719-3340-2