'ศูนย์ BLUE House ปชป.' ลงพื้นที่เขตลาดกระบัง ตรวจสอบปัญหา 'คลองลำพะอง - คลองทับยาว' - 'เมฆินทร์' เผยเจอปัญหา 'ผักตบชวา - กอสวะ' เต็มคลอง แถมไม่ได้ขุดลอกคลองมานานกว่า 10 ปี - ด้าน 'หมออนันต์' เผยหน่วยงานรัฐและ กทม. มุ่งพัฒนาด้านถนนจนรุกล้ำพื้นที่การเกษตรของชาวบ้าน วอนขุดลอกคลองคืนวิถีชีวิตอุดมสมบูรณ์ให้คนลาดกระบัง ที่เขตลาดกระบัง ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ (ศูนย์ BLUE House) พรรคประชาธิปัตย์ ได้ลงพื้นที่เขตลาดกระบัง เพื่อรับฟังปัญหาและตรวจสอบพื้นที่คลองลำพะอง และคลองทับยาว ที่มีปัญหาเกี่ยวกับผักตบชวาและสวะขึ้นเต็มคลอง รวมทั้งมีการตื้นเขินในช่วงหน้าแล้ง และเกิดปัญหาน้ำท่วมเมื่อมีฝนตก โดยมี นายเมฆินทร์ เอี่ยมสอาด ผู้อำนวยการศูนย์ BLUE House นายณรงค์ ปราบปัญจะ ที่ปรึกษาศูนย์ฯ นายสมมาตร วิสุทธิวงษ์ ที่ปรึกษาศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ฯ พร้อมคณะ โดยมี น.สพ. อนันต์ ฤกษ์ดี อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในเขตพื้นที่ พร้อมชาวบ้านจำนวนมากมาให้การต้อนรับ พร้อมทั้งพาคณะล่องเรือเพื่อสำรวจพื้นที่คลองด้วย โดยนายเมฆินทร์ ระบุว่า หลังจากสัปดาห์ที่แล้วทางศูนย์ ฯ ได้ลงพื้นที่เขตจตุจักร เพื่อรับฟังปัญหาของชาวบ้านในคลองลาดพร้าว เกี่ยวกับปัญหาของการเข้าร่วมโครงการบ้านมั่นคงและปัญหาแมวจรจัดที่สร้างปัญหาด้านสุขอนามัยและโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งปัญหาทั้งหมดนี้ทางศูนย์ฯ ก็ได้นำเสนอให้กับผู้เกี่ยวข้อง ดำเนินการไปแล้ว นายเมฆินทร์ กล่าวต่อว่า สำหรับในการลงพื้นที่วันนี้ เป็นการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบปัญหา ที่ น.สพ. อนันต์ ฤกษ์ดี อดีตผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคพร้อมกับชาวบ้านในเขตพื้นที่ ได้แจ้งมายังศูนย์ฯ ว่า คลองทั้ง 2 สาย เกิดปัญหาเกี่ยวกับการตื้นเขินในหน้าแล้ง ทำให้เกษตรกรในพื้นที่เกิดการทะเลาะเบาะแว้งเพื่อแย่งน้ำในคลองทำการเกษตร ต่อมา เนื่องจากมีการแพร่พันธุ์อย่างรวดเร็วของผักตบชวา ทำให้อัตราการไหลของน้ำลดลง ซึ่งเป็นการขัดขวางการระบายน้ำของคลอง ทำให้เกิดการตื้นเขินของแหล่งน้ำ รวมทั้ง จากความเจริญที่รุกล้ำเข้ามาในเขตพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างถนนหรือโครงการบ้านจัดสรรต่างๆ ส่งผลให้มีจำนวนรถเข้ามาเป็นจำนวนมาก จนเกิดเป็นมลภาวะในพื้นที่และทำให้คุณภาพน้ำในคลองทั้ง 2 แย่ยิ่งกว่าเดิมด้วย “ประเด็นสำคัญที่ทางศูนย์ฯ สนใจก็คือ เนื่องจากในพื้นที่เขตลาดกระบัง หลายหน่วยงานพยายามนำสิ่งที่คิดว่าเป็นความเจริญ รุกล้ำพื้นที่ที่เป็นแนวโซนนิ่งเขตเกษตรกรรมในพื้นที่เป็นจำนวนมาก ซึ่งสภาพคลองทั้งสองสายที่พวกเราได้เห็นวันนี้ เป็นเพียงแค่ปลายของเหตุที่เกิดขึ้น ดังนั้น ผมเองจะได้นำปัญหาตรงนี้ ไปให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะทางกรุงเทพมหานคร ได้เข้ามาดูแลตรงนี้ต่อไป” นายเมฆินทร์กล่าว ด้าน น.สพ. อนันต์ กล่าวว่า คลองทั้งสองสายนี้ ถือเป็นคลองที่เป็นวิถีชีวิตชาวบ้านในพื้นที่ เพราะเป็นคลองที่สามารถนำน้ำทำการเกษตรได้แล้ว ยังเป็นคลองที่สามารถระบายน้ำได้ในช่วงฤดูฝน ซึ่งที่ผ่านมา เคยมีโครงการขุดลอกคลองทั้งสอง ในสมัยที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2553 แต่ปรากฏว่า หลังจากนั้น ก็ไม่มีหน่วยงานใดๆ เข้ามาขุดลอกคลองหรือช่วยกันกำจัดผักตบชวา รวมทั้ง การพัฒนาในพื้นที่ก็มุ่งหวังแต่การสร้างถนนและขยายรุกล้ำเข้ามาจนพื้นที่ที่สงวนไว้เป็นเขตโซนนิ่งด้านเกษตรกรรมลดน้อยลงเรื่อยๆ ดังนั้น ตนในฐานะคนที่เกิดและเติบโตมาในสภาพพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ของเขตลาดกระบังในอดีต จึงเรียกร้องให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการขุดลอกคลองและจำกัดผักตบชวา โดยเร็ว เพราะตนไม่อยากเห็นภาพการเกิดน้ำท่วมเนื่องจากการขัดขวางทางน้ำของผักตบชวา รวมทั้ง เป็นการแก้ปัญหาชาวบ้านที่จะต้องมาแย่งน้ำกันเพื่อทำการเกษตรด้วย “ผมต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และกรุงเทพมหานคร ช่วยกันพัฒนาเส้นทางสัญจรทางน้ำ ควบคู่กับการพัฒนาเส้นทางสัญจรทางบก เพราะชาวบ้านที่นี้ต่างใช้คลองสัญจรไปมา และเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต ดังนั้น ผมก็ไม่ได้ขัดขวางที่จะให้มีถนน แต่ขอแค่พอรถผ่านไปมาสะดวกได้อย่างปลอดภัย รวมทั้ง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและคลองสองสายที่เปรียบเสมือนเป็นเส้นเลือดใหญ่ของชาวบ้านที่นี้ด้วย” น.สพ. อนันต์ กล่าว ด้านนายสมนึก บุญประเสริฐ ชาวบ้านในพื้นที่ กล่าวว่า ปัญหาเร่งด่วนที่อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขก็คือ คุณภาพน้ำในคลองลำพะองและคลองทับยาว เนื่องจากมีกลิ่นเน่าเหม็นและมีสีที่ผิดไปจากธรรมชาติ รวมทั้ง ขณะนี้เป็นช่วงฤดูฝน ซึ่งจะทำให้เกิดการระบาดของไข้เลือดออกในชุมชน ดังนั้น ตนจึงอยากฝากข้อเรียกร้องของชาวบ้านในพื้นที่ ให้กับทางศูนย์ BLUE House นำไปพิจารณาช่วยเหลือและให้หน่วยงานภาครัฐแก้ไขด้วย