ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ / ทหารประชาธิปไตย
วันนี้ขอคัดข่าวบางส่วนมาจากการเสนอข่าวของ BBC ซึ่งมีเหตุและปัจจัยละม้ายคล้ายคลึงกับประเทศสารขัณฑ์อย่างมาก มิหนำซ้ำเกิดขึ้นในวันเดียวกันทีเดียว และสัญลักษณ์ในการประท้วงต่อต้านรัฐบาลก็เป็นสายข้อมือขาว เหมือนนักเรียนในประเทศสารขัณฑ์ที่ใช้ริบบิ้นสีขาวเป็นสัญลักษณ์ในการต่อต้านเผด็จการ นั่นคือการประท้วงใหญ่เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2020
การประท้วงในเบลารุสมีต้นเหตุมาจากการกล่าวหาของฝ่ายค้าน และประชาชนเป็นจำนวนมากเห็นว่ารัฐบาลหรือนายอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ผู้นำที่ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดมายาวนานถึง 26 ปี ซึ่งในประเทศสารขัณฑ์ หากปล่อยให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ก็คงอยู่ในอำนาจเป็นเวลา 26 ปีเหมือนกัน
เหตุที่ความอดกลั้นปะทุขึ้นจากการเลือกตั้งที่ผ่านมาเมื่อ 9 ส.ค. และผลปรากฏว่านายลูเซนโกได้รับชัยชนะอีก ท่ามกลางข้อกล่าวหาว่ามีการโกงการเลือกตั้งอย่างมโหฬาร
ความไม่พอใจจากการแสดงออกประท้วงการโกงเลือกตั้งปะทุเดือดขึ้นเมื่อตำรวจใช้ความรุนแรงต่อผู้สนับสนุนฝ่ายค้าน จึงมีผู้มาประท้วงถึง 200,000 – 300,000 คน
สื่อในประเทศเรียกการชุมนุมครั้งนี้ในเมืองหลวงมินสก์ว่า เป็นการชุมนุมใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์นับตั้งแต่เบลารุสเป็นเอกราช
ส่วนในประเทศสารขัณฑ์ในวันเดียวกันก็นับว่าเป็นการประท้วงที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ภายหลังการยึดอำนาจของคณะทหาร
ที่เหมือนกันอีกอย่างคือ มีการออกมาชุมนุมของฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลเหมือนกัน แต่มีจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับผู้ชุมนุมประท้วงรัฐบาล อนึ่งในสารขัณฑ์แม้จำนวนผู้ประท้วงมีเพียง 2-3 หมื่น แต่มันมีคลื่นกระจายออกไปตามโรงเรียนที่มีการชูสามนิ้ว และใช้โบขาวเกือบทั่วประเทศ
คู่แข่งขันนายลูคาเชนโก คือ นางสเวตลานา ที คานอฟสกายา ได้เปิดเผยภายหลังหนีไปอยู่ลิทัวเนียว่านางถูกโกงการเลือกตั้งโดยยืนยันว่านางได้เสียงสนับสนุนถึง 60% ในขณะที่ทางการประกาศว่านางได้เพียง 10.12% และ ประธานาธิบดีลูคาเชนโกได้ถึง 80.1%
ด้วยฝีมือคณะกรรมการกลางการเลือกตั้ง ทำให้ผลการเลือกตั้งออกมาเป็นอย่างนี้ จนทำให้ประชาชนชาวเบลารุสโกรธแค้นมาก เพราะมันค้านกับสายตา เนื่องจากความนิยมต่อประธานาธิบดีตกต่ำอย่างมากภายหลังครองอำนาจมา 26 ปี ด้วยการใช้อำนาจอย่างเบ็ดเสร็จ ควบคุมสื่อ จนได้รับฉายาว่าเขาคือ “จอมเผด็จการในยุโรปคนสุดท้าย”
ธงของฝ่ายค้านคือธงขาวคาดแดงถูกชักโดยทั่วไป นอกจากนี้ยังมีการถือช่อดอกไม้และลูกโป่ง พร้อมกับใส่สายรัดข้อมือสีขาว เพื่อแสดงว่าเขาต้องการประท้วงโดยสันติ
โดยรัฐบาลใช้ความรุนแรง ตั้งแต่คืนหลังวันเลือกตั้งด้วยเกิดการปะทะกัน แต่ตำรวจใช้กระสุนจริงยิงใส่ประชาชน และมีผู้ถูกจับกุม 3,000 คน ในกรุงมินส์กและอีกหลายเมือง อย่างไรก็ตามในบางส่วนตำรวจจะใช้กระสุนยางและยิงแก๊สน้ำตาเท่านั้น
ต่อเมื่อเหตุการณ์บานปลายตำรวจจึงใช้กระสุนจริง และมีการทำร้ายผู้ถูกจับกุมคุมขัง โดยบางส่วนส่งไปจองจำในเรือนจำดังเป็นอาชญากร
บรรดาเพื่อนและญาติของผู้ถูกควบคุมตัวได้รวมตัวกันที่ศูนย์ควบคุมตัวหลายแห่ง พวกผู้หญิงพากันแต่งชุดสีขาว ถือดอกกุหลาบ และจับมือกันเดินขบวนไปตามถนนอินดีเพนเดนซ์ ซึ่งเป็นถนนใหญ่กลางกรุงมินส์ก ขณะที่รถยนต์ได้ทำการบีบแตรสนั่นเมือง พร้อมชูสายรัดสีขาว
ญาติและเพื่อนของผู้ถูกจับกุมได้เรียกร้องให้จัดแพทย์เข้าไปตรวจสภาพของผู้ต้องถูกจับกุมคุมขัง เพราะเชื่อว่ามีการทำทารุณเขาเหล่านั้น
อย่างไรก็ตามมีบางพื้นที่ตำรวจ ซึ่งแม้ตามข่าวจะบอกว่ายังคงจงรักภักดีกับนายลูคาเชนโก แต่มิได้ดำเนินการรุนแรงกับผู้ประท้วงและอำนาจความสะดวกให้ด้วย จึงได้รับการต้อนรับด้วยการสวมกอดจากผู้ประท้วง
สาเหตุสำคัญที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่พอใจประธานาธิบดีนั้นก็เริ่มมาตั้งแต่การบริหารจัดการที่ล้มเหลวทางเศรษฐกิจ และต่อมาเมื่อเกิดโรคระบาดโควิด-19 สภาพเศรษฐกิจก็ยิ่งทรุดต่ำลง แถมนายลูคาเชนโกยังสั่งให้เก็บภาษีการว่างงานอีก จึงเท่ากับเป็นการซ้ำเติมประชาชน
ข่าว RT.ของค่ายรัสเซียรายงานว่า นายลูคาเชนโกตกลงยินยอมจะให้มีการเลือกตั้งใหม่ แต่ต้องให้มีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ก่อน และผ่านการลงประชามติแล้ว จึงจะยอมให้มีการเลือกตั้งใหม่ได้ ซึ่งก็ต้องใช้เวลาอีกพอสมควร
เมื่อหันมาติดตามเหตุการณ์ในประเทศสารขัณฑ์ การประท้วงของผู้ที่ไม่พอใจต่อความบิดเบี้ยวของรัฐธรรมนูญ ที่สร้างปัญหาในการปกครองประเทศ การข่มขู่คุกคามของฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐ และการเพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องของผู้ประท้วง มันก็เป็นไปในทำนองเดียวกันกับเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 16 ที่ผู้ใหญ่ไม่ยอมทำตามข้อเรียกร้องขอรัฐธรรมนูญในเวลานั้น กลับสั่งให้มีการจับกุมผู้นำในการเรียกร้องรัฐธรรมนูญ 13 ท่านในข้อหากบฎในราชอาณาจักรจนทำให้เหตุการณ์บานปลาย
แม้ว่าในปัจจุบันนายกฯของประเทศสารขัณฑ์จะครองอำนาจมาเพียง 6 ปีเศษ แต่ความตกต่ำในทางเศรษฐกิจจากฝีมือในการบริหารจัดการประเทศ ครั้นมาเจอเหตุการณ์ระบาดของโควิด-19 สถานการณ์ก็ยิ่งหนักหนาสาหัสมากยิ่งขึ้น
ถ้ามีคนตกงานแม้เพียง 2-3 ล้านคน ไม่ถึง 8 ล้านคนตามที่หลายหน่วยงานพยากรณ์ไว้ เหตุแห่งปัจจัยเหล่านี้อาจนำไปสู่การจลาจลครั้งใหญ่ เพราะเขากำลังจะอดตาย
ด้วยสถานการณ์ดังกล่าวประชาชนชาวสารขัณฑ์จำนวนมากก็เริ่มจะวิตกวิจารณ์ต่อเหตุการณ์ที่กำลังจะบานปลายให้เป็นมิกสัญญี หากรัฐบาลยังคงแข็งขืนไม่ยอมรับการเรียกร้องของประชาชนชาวสารขัณฑ์
ขณะที่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจเริ่มปรากฏด้วย GDP ของสารขัณฑ์ในไตรมาสที่ 2 ตกลงมาต่ำกว่า 10% แต่รัฐบาลก็ยังไม่มีทีท่าหรือไม่อาจสร้างความมั่นใจให้ประชาชนได้มั่นใจเลยว่าจะแก้ปัญหาได้อย่างไร นอกจากวาทกรรมที่เลื่อนลอย
การเมืองในสภาก็กำลังร้อนแรง ทั้งจากฝ่ายค้านและฝ่ายของรัฐบาลเอง
ขณะที่เศรษฐกิจโลกก็กำลังซบเซาจากโควิด-19 และสงครามการค้า การส่งออกที่เคยทำรายได้จำนวนมากเข้าประเทศ หรือการท่องเที่ยวจากชาวต่างชาติก็ยังคงต้องรอต่อไปจนกว่าจะมีวัคซีน ซึ่งก็คงใช้เวลาไม่ต่ำกว่าปี
ด้วยเหตุเหล่านี้เหตุการณ์ในเบลารุส จึงประจวบเหมาะสอดรับกับเหตุการณ์ในสารขัณฑ์ที่มีเหตุแห่งปัจจัยคล้ายคลึงกัน และอาจบานปลายกลายเป็นเหตุจลาจลใหญ่โตได้
และก็อย่าไปโทษว่ามีการยุยงปลุกปั่นจากมหาอำนาจ เพราะสาเหตุสำคัญมันมาจากปัญหาภายใน ของระบอบการปกครองที่เป็นเผด็จการซ่อนรูป และไม่อาจตอบสนองความต้องการของประชาชนที่เรียกร้องประชาธิปไตยได้
เด็กนักเรียนในปัจจุบันเขาไม่เหมือนเด็กนักเรียนเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ที่ตอนนั้นยังขี่ควายไถนาอยู่เลย การเลี้ยงดูเด็กในปัจจุบันไม่เหมือนสมัยเก่า พ่อแม่คงต้องเข้าใจและปรับตัวให้เข้ากับการเลี่ยนแปลงของสังคม อย่าไปยึดมั่นถือมั่นให้สังคมมันหยุดนิ่งเหมือนสมัยท่านเด็กๆเลยครับ ท่านประชาชนชาวสารขัณฑ์
ส่วนการชูสามนิ้วนั้นมันหมายถึงเสรีภาพ เสมอภาค และภราดรภาพ ซึ่งเป็นหลักการของมนุษย์ที่เจริญ ไม่เห็นจะผิดตรงไหน และมันแพร่หลายไปทั่วไม่ใช่เฉพาะในสารขัณฑ์หรอก