นางชาริตา ลีลายุทธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด เผยว่า โดยตลอดระยะเวลาที่ดำเนินการ ไทยสมายล์ได้มีการปรับปรุงแผนดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง และมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า ขณะนี้การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อทุกภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจสายการบิน การท่องเที่ยว ดังจะเห็นได้จากปริมาณการเดินทางของผู้โดยสารที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาไทยสมายล์ได้พัฒนาระบบการขายออนไลน์เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 20 เป็น ร้อยละ 50 เพื่อรองรับความต้องการที่เปลี่ยนไปของผู้โดยสารมากขึ้น รวมทั้งดำเนินการวางแผนบริหารจัดการเครื่องบินให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดในระหว่างที่ต้องหยุดทำการบินระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ไทยสมายล์ ยังมีมาตรการปรับเพิ่มเที่ยวบินให้สอดคล้องกับปริมาณของผู้โดยสารที่ยังมีความต้องการเดินทางจากเดิม 27 เที่ยวบิน เป็น 34 เที่ยวบินต่อวัน สำหรับเส้นทางในประเทศ 10 เส้นทาง ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ขอนแก่น อุบลราชธานี อุดรธานี หาดใหญ่ สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต นราธิวาส และกระบี่ โดยในเดือนกันยายนไทยสมายล์มีแผนการเปิดเส้นทางบินใหม่ กรุงเทพฯ-นครศรีธรรมราช เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร ในขณะที่ยังคงดำเนินแผนการปรับลดค่าใช้จ่ายที่ยังไม่จำเป็น เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณการผลิตที่ลดลง "นอกจากนี้ ไทยสมายล์ให้ความสำคัญและปฏิบัติตามมาตรการด้านความปลอดภัยสูงสุดโดยได้รับตราสัญลักษณ์มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (Amazing Thailand Safety & Health Administration: SHA) เป็นสองสายการบินแรกที่ได้รับร่วมกับการบินไทย ผู้โดยสารจึงสามารถมั่นใจในการเดินทางทุกครั้ง" ล่าสุด ไทยสมายล์ยังได้รับรางวัลจาก Tripadvisor จากการจัดอันดับโดยเว็บไซต์ทริปแอดไวเซอร์ (Tripadvisor Travellers’ Choice Airline Awards) ประจำปี 2563 ได้แก่ สายการบินยอดเยี่ยมในภูมิภาคเอเชีย (Best Regional Airline - Asia) เป็นครั้งที่ 3 และสายการบินยอดเยี่ยมอันดับหนึ่งของประเทศไทย (Best Airline Thailand) ติดต่อกันเป็นปีที่ 4 เพื่อให้ผู้โดยสารอุ่นใจและปลอดภัยตลอดการเดินทาง ไทยสมายล์ยังคงยึดมั่นที่จะส่งต่อรอยยิ้มให้กับผู้โดยสารทุกท่าน ด้วยการบริการที่ดีเยี่ยมอย่างไม่สิ้นสุดต่อไป