ตำรวจเบตงจับเสื้อผ้ามือสองลักลอบหนีศุลกากร มูลค่ากว่า 3 แสนบาทมึนเข้ามาได้ยังไง ขณะที่ด่านพรมแดนเบตงไม่อนุญาตให้นำเข้าสินค้าบางชนิดเข้าหลังเกิดการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19ในประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 19 ส.ค. พ.ต.อ.เอกชัย พราหมณกุล ผกก.สภ.เบตง พ.ต.ท.อดุลย์ เง๊าะ รอง ผกก.ป.สภ.เบตงพ.ต.ท.ธวัช เคนดา รองผกก.(สอบสวน).สภ.เบตง พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ ขุนบรรเทิง รองผกก.สสสภ.เบตง พ.ต.ท.รุสมาน ดีนามอ สว.(สอบสวน)สภ.เบตง ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมสินค้าลักลอบหนีศุลกากร มูลค่ากว่า 3 แสนบาทที่บริเวณกลุ่มหมู่บ้านกุนุงจานอง ต.เบตง อ.เบตง จ.ยะลา สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนได้รับแจ้งจากสายลับว่าเมื่อวันที่ 18 ส.ค.63 เวลา12.00 น.วานนี้ได้มีการลักลอบขนสินค้าหนีภาษีของจากประเทศมาเลเซียโดยเข้าประเทศไทยมาทางด่านพรมแดนอำเภอเบตง จ.ยะลา เข้ามาโดยตำรวจชุดจับกุมจึงได้วางแผนโดยได้ออกตรวจพื้นที่ในเวลา 12.50 น.พบเห็นกองกระสอบแบบอัดแท่งเป็นก้อนจำนวนมากและถุงผ้าดำจำนวนหลายถุงบริเวนหน้าบ้านเลขที่1/6 ถ.กุนุงจานอง ต.เบตง อ.เบตง จ.ยะลา โดยมีนายอับดุลเลาะ สนิ อายุ 49 ปี ยืนอยู่หน้าบ้าน จนท.ตำรวจ จึงแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้นภายในกระสอบและถุงผ้า ซึ่งจากการตรวจสอบพบเป็นเสื้อผ้ามือสองบรรจุอยู่ภายใน 20 ก้อน โดยมีน้ำหนักก้อนละประมาณ 80 กิโลกรัมและกระสอบอัดก้อนเล็กซึ่งมีเสื้อผ้ามือสองบรรจุอยู่ภายใน 30 ก้อนโดยมีน้ำหนักก้อนละประมาณ 50 กิโลกรัมและกระสอบ ถุงผ้าสีดำจำนวน 31 ถุงภายในบรรจุมุ้ง ผ้าห่ม พรมสภาพใหม่ ผ้าปูที่นอน ผ้าถุง ผ้าห่ม หมอนสภาพใหม่ ซึ่งของกลางทั้งหมดมูลค่ากว่า3แสนบาทโดยตรวจพบบริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว จนท.ชุดจับกุมจึงสอบถามนายอับดุลเลาะ ว่า ของดังกล่าวเป็นของใคร นายอับดุลเลาะ ให้การว่าของกลางดังกล่าวเป็นของตน โดยนายอับดุลเลาะ บอกกับ จนท.ตำรวจชุดจับกุมว่าตนเองได้รับจ้างมาจาก น.ส. นารีซะ ชาเบะ อายุ 40 ปี ในราคา 1,500 บาทให้นำของกลางทั้งหมดที่ จนท.ตำรวจตรวจยึดได้ให้ไปส่งให้กับ น.ส. นารีซะ ชาเบะ ที่อำเภอกะพ้อ จ.ปัตตานี โดยตนได้ทำมาสองครั้งแล้วและในวันนี้ก็เช่นกันกำลังจะนำของไปส่งแต่มาถูกจับกุมเสียก่อน หลังจากนั้นจนท.ตำรวจชุดจับกุมจึงขอตรวจใบเสร็จค่าธรรมเนียมการเสียภาษีนำเข้าจากกรมศุลกากร โดยนายอับดุลเลาะ ไม่สามารถนำเอกสารดังกล่าวมาแสดงให้ จนท.ตำรวจชุดจับกุมได้ จนท.ตำรวจจึงตรวจยึดของกลางทั้งหมดและแจ้งให้นายอับดุลเลาะ ทราบว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐาน “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่ายช่วยเอาไปเสีย ซื้อหรือรับไว้ด้วยประการใดๆซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร” จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางดำเนินคดีต่อไป