เมื่อเวลา 06.55 น. ของวันนี้ 17 ส.ค.63 พลเรือเอกลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมด้วย นาวาเอกหญิง อุบลวรรณ รุดดิษฐ์ นายกสมาคมภริยาทหารเรือ ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดซุ้มประตูค่ายกรมหลวงชุมพร หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมี พลเรือโท รณรงค์ สิทธินันทน์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ให้การต้อนรับ พร้อมด้วยกำลังพลหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือ หน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือในพื้นที่สัตหีบ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ร่วมในพิธีเปิด พลเรือโท รณรงค์ สิทธินันทน์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กล่าวว่า ทหารนาวิกโยธิน ได้จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2367 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 มีเกียรติประวัติการรบและช่วยแก้ไขสถานการณ์ความรุนแรงต่าง ๆ มากมาย ปัจจุบันทหารนาวิกโยธินยังคงปฏิบัติภารกิจในการป้องกันชายแดนในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีและตราด การรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดจนให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยต่าง ๆ สำหรับวัตถุประสงค์ในการจัดสร้างซุ้มประตูหน่วย เนื่องจากซุ้มประตูเดิมกีดขวางการสร้างขยายถนนสุขุมวิท เพื่อรองรับการจราจรและรองรับปริมาณรถที่จะเพิ่มขึ้น ตามโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC :Eastern Economic Corridor) ทำให้ต้องมีการรื้อถอนซุ้มประตูเดิมออก การก่อสร้างซุ้มประตูใหม่มีลักษณะคล้ายป้อมปราการในสนามรบในสมัยโบราณ จึงขอให้กรมช่างโยธาทหารเรือ ดำเนินการเขียนแบบและคำนวณการก่อสร้าง โดยรูปแบบซุ้มประตูมีขนาด ความกว้าง 33 เมตร ความหนา 6 เมตร และมีความสูง 18.6 เมตร ซึ่งมีความกว้างและสูงเพียงพอ ที่จะให้ยานพาหนะรวมถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ของหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน สามารถผ่านเข้า - ออก ได้อย่างสะดวกและปลอดภัย โดยในส่วนของรายละเอียด ซุ้มประตูนั้น มีเครื่องหมายความสามารถพิเศษ หลักสูตร การลาดตระเวนสะเทินน้ำสะเทินบกและจู่โจม หรือที่เรียกกันว่า “Recon” ติดตั้งนามค่าย และคำขวัญที่ทหารนาวิกโยธินทุกนาย ได้รับการปลูกฝังลงในจิตใจ ที่ว่า “กาย ใจ ชีวิต มอบเป็นราชพลี” “เมื่อรบ ต้องชนะ” และ “นำดี ตามดี” ในส่วนด้านบนของซุ้มประตู ติดตั้งกลอง 3 ใบ ที่จำลองมาจาก ซุ้มประตูค่ายทหารในสมัยโบราณ ได้แก่ กลองย่ำพระสุริย์ศรี ที่ใช้ตีบอกเวลา กลองอัคคีพินาศ ที่ใช้ตีเพื่อแจ้งเหตุไฟไหม้ และกลองพิฆาตไพรี ที่ใช้ตีเมื่อเกิดศึกสงคราม เป็นความหมายถึง การป้องกันภัยร้ายต่าง ๆ ไม่ให้กล้ำกรายมาสู่ กำลังพลและผู้พักอาศัยในค่ายกรมหลวงชุมพรแห่งนี้ ทั้งนี้ ซุ้มประตูใหม่ ของหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินแห่งนี้ ซึ่งนับว่าเป็นปราการด่านแรกในการเข้าสู่พื้นที่ค่ายกรมหลวงชุมพร จะได้แสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งความแข็งแกร่งและสื่อถึงการปฏิบัติภารกิจของทหารนาวิกโยธินที่ได้รับใช้ผืนแผ่นดินไทยอย่างเสียสละตลอดมา โดยในส่วนของการดำเนินการก่อสร้างนั้น ได้ใช้กำลังพลของกองพันทหารช่าง หน่วยบัญชาการนาวิกโยธินเป็นหลัก ทำให้สามารถลดค่าใช้จ่ายดำเนินการก่อสร้างได้เป็นจำนวนมาก โดยใช้งบประมาณในการดำเนินการจัดสร้าง รวมถึงการปรับภูมิทัศน์บริเวณพื้นที่โดยรอบ เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 20 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณที่ดำเนินการนั้น ไม่ได้ใช้งบประมาณของทางราชการแต่อย่างใด แต่มาจากการเปิดให้เช่าบูชาวัตถุมงคล พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ องค์บิดาของทหารเรือ ที่หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ได้ดำเนินการจัดสร้างขึ้น ซึ่งมีกำลังพลตลอดจนผู้มีจิตศรัทธาในองค์บิดาของทหารเรือไทย ให้ความสนใจเช่าบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล รวมถึงร่วมบริจาคในการสร้างซุ้มประตูเป็นจำนวนมาก ทำให้การดำเนินการต่าง ๆ สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี