สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ แถลงผลประกอบการเศรษฐกิจของประเทศในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ หรือระหว่างเดือน เม.ย. - มิ.ย. ที่ผ่านมาว่า ผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพี อยู่ในภาวะหดตัว หรือติดลบถึงร้อยละ 27.8 เมื่อเปรียบเทียบกับสถานการณ์เศรษฐกิจในช่วงไตรมาสแรก หรือระหว่างช่วงเดือน ม.ค. - มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นการหดตัวทางเศรษฐกิจของประเทศครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 40 ปี โดยเป็นผลกระทบที่ได้รับจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 จนเป็นเหตุให้ทางรัฐบาลต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน การปิดพื้นที่ หรือล็อกดาวน์ จนเป็นเหตุให้การจับจ่ายใช้สอยของประชาชนลดลง ธุรกิจหลายแห่งต้องปิดทำการ และการส่งออกได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เช่นเดียวกับภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง สำหรับ สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในญี่ปุ่น พบจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 55,667 ราย มากเป็นอันดับที่ 46 ของโลก ส่วนผู้ป่วยที่เสียชีวิตมีจำนวน 1,779 ราย และผู้ป่วยที่รักษาหายมีจำนวนสะสมที่ 39,800 ราย