แม้เป็นที่รับรู้ว่า “ไวรัสโควิดฯ” แผลงฤทธิ์ถล่มตลาดแรงงาน จนส่งผลกระทบการจ้างงานกันไปทั่วทุกหัวระแหง แต่ก็ยังเป็นเพียงแค่อนุมานกันเอา ทว่า มาครานี้เป็นทีของ หน่วยงานระดับชำนัญพิเศษ ด้านแรงงาน ของสหประชาชาติ หรือยูเอ็น นั่นคือ “องค์การแรงงานระหว่างประเทศ” หรือ “ไอแอลโอ (ILO : International Labour Organization)” ออกมาเปิดเผยเป็นตัวเลขออกมาแจงให้เห็นกัน เพื่อให้ประชาคมโลกเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่ยังต้องเผชิญหน้ากับไวรัสโควิด-19 จนกว่าจะได้วัคซีนมาป้องกันได้อย่างทรงประสิทธิภาพและปลอดภัยอย่างแท้จริง โดยรายงานของไอแอลโอ ระบุว่า กลุ่มคนในช่วงอายุ 18 -29 ปี ซึ่งถือว่าเป็นวัยแรงงาน ถึงร้อยละ 70ทั่วโลก หรือเกือบ 3 ใน 4 ที่ต้องได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการจ้างงาน หรือพูดง่ายๆ ก็คือ “ตกงาน” นั่นเอง ทั้งนี้ ตัวเลขที่เปิดเผยข้างต้น ก็มาจากทางทีมงานของไอแอลโอ ได้สำรวจกับกลุ่มตัวอย่างในพื้นที่ 112 ประเทศทั่วโลก เมื่อช่วงไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของไวรัสโควิดฯ อันส่งผลให้ทางการหลายๆ ประเทศ ต้องประกาศมาตการปิดพื้นที่ หรือล็อกดาวน์ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสร้าย แบบยอมแลกกับการที่จะต้องงดกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ จนส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน รายงานของไอแอลโอ ยังระบุด้วยว่า ผลจากการแพร่ระบาดของไวรัสมรณะ และมาตรการล็อกดาวน์ เป็นเหตุกิจการหลายแห่งต้องปิดตัวลงทั้งในแบบชั่วคราว และถาวร รวมถึงทำให้กิจการจำนวนไม่น้อย ต้องลดสายการผลิตลง จนกระทบต่อรายได้ของแรงงานไปด้วย โดยมีรายงายว่า เกือบ 1 ใน 4 ได้มีการลดชั่วโมงการทำงานลง และแรงงานวัยหนุ่มสาวราว 2 ใน 5 มีรายได้ลดลง ซึ่งมีตัวเลขอัตราเฉลี่ย เปิดเผยด้วยว่า ราวร้อยละ 42 ที่แรงงานหนุ่มสาวเหล่านี้ มีรายได้หดหายไป นายชาง ฮอน-ลี ผอ.สำนักงานแผนกนโยบายการจ้างงานของไอแอลโอ ยังเผยอีกว่า จากการที่สถานประกอบการลดชั่วโมง จนแรงงานมีรายได้ลดลง หรือกิจการหลายแห่งปิดตัวลงไป จนแรงงานกลายเป็นคนว่างงาน ก็ได้ทำพลเมืองโลกในวัยทำงานเหล่านี้ มีปัญหาด้านสุขภาพจิตตามมาด นั่นคือ อาการวิตกกังวลเกี่ยวกับการยังชีพของพวกเขา มิหนำซ้ำหลายรายกลายเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้าเพิ่มมากขึ้นด้วย จากสถานการณ์อันเลวร้ายที่พวกเขาเผชิญหน้า โดยรายงานของไอแอลโอ ระบุเป็นตัวเลขค่าเฉลี่ยออกมาว่า แรงงานวัยหนุ่มสาวเหล่านี้ที่กลายเป็นคนป่วยด้วยอาการซึมเศร้าข้างต้น มีจำนวนมากถึงร้อยละ 50 ด้วยกัน หรือครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว พร้อมกันนี้ รายงานของไอแอลโอ ยังกล่าวถึงสถานการณ์เยาวชนอีกจำนวนหนึ่ง ที่การเรียน การศึกษาของพวกเขาได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ด้วยว่า ไวรัสมรณะพ่นพิษต่อการศึกษาของพวกเขาอย่างรุนแรงเช่นกัน ทั้งนี้ มีตัวเลขที่ทางไอแอลโอ สำรวจออกมาว่า แม้แต่เยาวชนในกลุ่มประเทศร่ำรวย พัฒนาแล้ว ก็ได้รับผลกระทบ ไม่ได้รับการศึกษาอย่างร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม โดยมีเยาวชนจำนวนเพียงร้อยละ 65 เท่านั้น หรือไม่ถึง 3 ใน 4 ที่สามารถรับการเรียน การสอน แบบการศึกษาทางออนไลน์ได้ ส่วนเหล่าเยาวชนในกลุ่มประเทศที่ยากจน สามารถเข้าถึงการศึกษาในระบบออนไลน์ดังกล่าว ได้เพียงร้อยละ 18 เท่านั้น คือ ไม่ถึง 1 ใน 5 ด้วยซ้ำ รายงานของไอแอลโอ เรียกเยาวชนยุคโควิดฯ อาละวาดนี้ด้วยว่า เป็น “คนรุ่นปิดเมือง หรือล็อกดาวน์ (Lockdown Generation)” ก่อนแนะนำทางการประเทศต่างๆ ขยับปรับนโยบาย และมาตรการต่างๆ กันใหม่ ที่นอกจากมีความตรงประเด็น และเร่งด่วนแล้ว ก็ต้องให้ครอบคลุม ทุกระบบภาคส่วน เพื่อคุ้มครองเยาวชน ให้ได้รับการศึกษา และคนหนุ่มสาว ให้ได้รับการจ้างงานอย่างมั่นคงขึ้น เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิดฯ ที่โลกกำลังเฝ้ารอคอย “วัคซีน” ที่จะมาเป็นพระเอกขี่ม้าขาว ซึ่งคาดว่า น่าจะปรากฏโฉมอย่างทรงประสิทธิภาพและมั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัย ในช่วงสิ้นปีนี้ หรือต้นปีหน้า เป็นอย่างเร็ว